หลังจากได้เปิดตัวโทรศัพท์มือถือไอโฟนรุ่นแรกมาร่วมปี สตีฟ จ็อบส์หวังว่า เขาจะเปลี่ยนแปลงโลกของโทรศัพท์มือถือไปตลอดกาล เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาก็ได้เปิดตัวโทรศัพท์มือถือไอโฟนรุ่นที่สองของแอปเปิล
ไอโฟน3G ได้แก้ไขจุดอ่อนจำนวนมากของไอโฟนรุ่นแรกและได้เพิ่มคุณสมบัติใหม่ๆ ที่สำคัญคือ การเชื่อมต่อกับโครงข่ายไร้สายความเร็วสูงรุ่นที่3 เพิ่มระบบGPS(The Global Positioning System) ซึ่งเปิดทางให้เกิดบริการใหม่ๆที่น่าตื่นตาตื่นใจ เช่น บริการข้อมูลข่าวสาร ที่สืบเนื่องจากตำแหน่งที่อยู่ของผู้ใช้ การเชื่อมต่อกับระบบเมลและเครือข่ายของบริษัทอย่างราบรื่น และความสามารถในการสั่งลบข้อมูลส่วนตัวในเครื่อง จากระยะไกลได้อย่างหมดจดในกรณีที่โทรศัพท์หาย
ทั้งๆที่มีทุกอย่างดีกว่าไอโฟนรุ่นแรกมาก แต่ที่คนทั่วไปประหลาดใจก็คือ ไอโฟน3G กลับเปิดตัวด้วยราคาที่ถูกกว่ารุ่นแรกมาก ทั้งยังถูกกว่าโทรศัพท์มือถือรุ่นที่ใกล้เคียงกัน จากคู่แข่งค่ายอื่นๆด้วย โดยไอโฟน3G รุ่น 8GB ราคา 199 เหรียญสหรัฐ(ประมาณ 6600 บาทเศษ) รุ่น 16 GB ราคา 299 เหรียญสหรัฐ(ประมาณ 10000 บาทเศษ)
สาเหตุคือแอปเปิล ได้ตัดสินใจเปลี่ยนโมเดลธุรกิจของไอโฟนใหม่ โดยเฉพาะคือ ความสัมพันธ์กับผู้ให้บริการโครงข่ายไร้สาย เช่นเอทีแอนด์ทีที่อเมริกา จากแบบเดิมที่ผู้ให้บริการ ต้องแบ่งค่าบริการในการใช้งานตามสัญญาแก่แอปเปิล
เป็นแบบใหม่ที่ ผู้ให้บริการฯออกเงินชดเชย(subsidise)แก่แอปเปิล สำหรับค่าเครื่องไอโฟน3G ทุกเครื่องที่ขายได้ โดยผู้ให้บริการฯ จะทำสัญญาผูกมัดผู้ซื้อ ให้ใช้โครงข่ายฯเป็นเวลา 2 ปีและไม่ต้องแบ่งค่าบริการการใช้งานแก่แอปเปิลอีกต่อไป นั่นคือการเดินตามโมเดลธุรกิจดั้งเดิมของผู้ผลิตรายอื่นๆ เช่นโนเกียหรือซัมซุง
แอปเปิลพบว่า โมเดลธุรกิจของไอโฟนแบบเดิม ทำให้ยอดขายของไอโฟนเติบโตช้าเกินไป แอปเปิลหวังว่า รายได้จากยอดขายของไอโฟนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จะสามารถชดเชยรายได้ที่หายไปจากส่วนแบ่งค่าบริการจากการใช้งาน
ด้วยการลดราคาและเพิ่มจำนวนประเทศที่ขายไอโฟน3Gอย่างถูกกฎหมายจาก 6 ประเทศเป็น 70 ประเทศ แอปเปิลหวังว่าจะสามารถขายไอโฟนได้ 10 ล้านเครื่องภายในปีนี้ตามเป้าหมายที่สตีฟ จ็อบส์ได้เคยแถลงไว้(ปัจจุบันขายได้แล้ว 6 ล้านเครื่อง)
ปัจจุบันบริษัทโนเกีย ประเทศฟินแลนด์ ขายสมาร์ทโฟนได้มากที่สุด ครองส่วนแบ่งตลาดโลกในไตรมาสแรกของปีนี้ ประมาณร้อยละ 45 บริษัทรีเสิชอินโมชั่น(RIM)ประเทศแคนาดา ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือยี่ห้อแบลคเบอร์รี่ที่มีชื่อเสียง ครองส่วนแบ่งตลาดโลกประมาณร้อยละ 13 เฉพาะในตลาดอเมริกาซึ่งโนเกียไม่ได้รับความนิยม รีเสิชอินโมชั่นเป็นผู้นำ ด้วยส่วนแบ่งร้อยละ 42 ตามด้วยแอปเปิลร้อยละ 20
แต่ไอโฟนได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือ มากกว่าแค่ส่วนแบ่งทางการตลาด ไอโฟนได้กลายเป็นผู้กำหนดมาตราฐานใหม่ ในด้านการออกแบบและความง่ายในการใช้งาน
ตามสถิติการใช้งานที่จ็อบส์เปิดเผยคือ ผู้ใช้ร้อยละ 98 เข้าอินเตอร์เน็ตด้วยไอโฟน ร้อยละ 94 ใช้อีเมลด้วยไอโฟน ร้อยละ 80 ใช้งานโปรแกรมต่างๆมากกว่า 10โปรแกรมรวมทั้งโปรแกรมเล่นเพลงไอจูน
เขายังแซวว่า ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่นๆ ไม่สามารถจะหาโปรแกรมใช้งานได้เกินกว่า 10 โปรแกรมเพราะเมนูการใช้งานที่ยุ่งยาก
มีเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลตั้งแต่ก่อนปีคศ.1984 แต่เครื่องแมคอินทอชของแอปเปิล ได้เป็นผู้นำในการใช้รูปแบบการติดต่อ ระหว่างคอมพิวเตอร์กับผู้ใช้ด้วยกราฟิกและไอคอน ซึ่งทุกรายต้องเลียนแบบและเดินตาม เปิดยุคใหม่ของพีซีเช่นที่เราเห็นในทุกวันนี้
มีเครื่องเล่นเพลงดิจิตอลก่อนปีคศ.2001 แต่เครื่องไอพ็อดของแอปเปิ้ล ได้ทำให้มันใช้งานได้ง่ายและแพร่หลายไปทั่วทุกแห่งหน
เช่นเดียวกับที่ผ่านมา บทบาทที่สำคัญที่สุดของไอโฟนต่อจ๊อบ ต่อแอปเปิลและต่ออุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือ คือการกำหนดทิศทางและมาตราฐานใหม่ ของโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนให้คนอื่นเดินตาม ในยุคของการสื่อสารแบบไร้สาย
สตีฟ จ็อบส์กำลังพยายามนำการปฏิวัติใหม่ครั้งที่สามในชีวิตของเขา ในโลกของเทคโนโลยี่ที่คนทั่วไปใช้ในชีวิตประจำวัน
ที่มา-นิตยสารอีโคโน
มิสต์