เมื่อเหล่า VC มองหาเฉพาะธุรกิจที่ทำกำไร เหล่าสตาร์ทอัพเลยนิยามคำว่า "มีกำไร" กันใหม่

by arjin
18 May 2016 - 01:47

บรรดานักลงทุน Venture Capital (VC) จะพิจารณาตัวชี้วัดหลายอย่างก่อนเลือกลงทุนในสตาร์ทอัพใดๆ ซึ่งที่ผ่านมาตัววัดที่นิยมกันมากก็คือ จำนวนผู้ใช้งาน (users), ยอดดาวน์โหลด, อัตราการเติบโตของรายได้ แต่ปัญหาคือตัวชี้วัดเหล่านี้บ่งบอกว่าธุรกิจเติบโตก็จริง แต่ไม่ได้รับประกันว่าจะมีกำไร ทำให้เหล่า VC ตอนนี้เริ่มให้ความสำคัญว่าสตาร์ทอัพนั้นมีความสามารถกำไรได้หรือไม่ เป็นตัววัดแรก

เรื่องนี้จึงทำให้เหล่าสตาร์ทอัพในอเมริกาโดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจ On-Demand (Uber for X) ต้องกำหนดนิยามคำว่า มีกำไร กันใหม่ เพื่อให้ธุรกิจตนยังอยู่ในความสนใจของ VC ต่อไป

ในงานนำเสนอล่าสุดของ Y Combinator ประโยคทองหนึ่งที่เหล่าสตาร์ทอัพล้วนใช้กันจึงกลายเป็นคำว่า "เรามีกำไรแล้ว" ซึ่งก็เหมือนกับ Uber เองที่ระบุว่าธุรกิจของตนมีกำไรแล้วในอเมริกาและแคนาดา เพียงแต่คำว่ามีกำไรของสตาร์ทอัพเหล่านี้อาจไม่ใช่กำไรแบบที่คนรู้จักกัน

Ellen Huet แห่ง Bloomberg ยกกรณีศึกษาของ SpoonRocket บริการส่งอาหารด่วน ซึ่งได้รับการเพิ่มทุนมากกว่า 13 ล้านดอลลาร์ พวกเขาบอกกับนักลงทุนตลอดว่าสามารถทำกำไรได้ในทุกคำสั่งซื้อ ซึ่งเป็นการคำนวณกำไรต่อหน่วยเท่านั้น (รายได้ ลบค่าขนส่งและต้นทุนอาหาร) แต่ในความจริงธุรกิจมีค่าใช้จ่ายอื่นอีก เช่น ต้นทุนการบริการลูกค้า, พนักงานในสำนักงาน, ค่าเช่าสำนักงาน, ค่าใช้จ่ายการตลาด ฯลฯ ซึ่งด้วยกำไรต่อหน่วยการส่งที่อยู่ราว 0.50-1 ดอลลาร์ จึงไม่เพียงพอเมื่อหักค่าใช้จ่ายอื่นเหล่านี้เข้าไป SpoonRocket เลยปิดกิจการไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

สตาร์ทอัพหลายแห่งจึงต้องหาวิธีคำนวณเพื่อบอกว่ากิจการตนนั้นมีกำไร แต่ด้วยรูปแบบที่แตกต่างไปจากหลักการบัญชีปกติ อาทิ บอกว่าทำกำไรแล้วใน 40% ของพื้นที่ซึ่งทำตลาดอยู่ บ้างก็บอกว่ากระแสเงินจากการดำเนินงานเป็นบวก แต่ไม่พูดถึงค่าใช้จ่ายอื่นเช่น ภาษี, หุ้นสวัสดิการ, ดอกเบี้ยเงินกู้ยืม (ในที่มาใช้คำว่า "เรามีกำไรแล้ว ถ้าไม่รวม X")

Bill Gurley พาร์ตเนอร์ของ VC รายหนึ่งให้ความเห็นว่าแนวโน้มนี้เป็นเรื่องดีต่อวงการสตาร์ทอัพ เพราะทำให้การใช้จ่ายต่างๆ ถูกควบคุมมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ส่งผลให้สตาร์ทอัพเข้าสู่ตลาดหุ้นกันน้อยลง เพื่อหลีกเลี่ยงการต้องเปิดเผยตัวเลขต่างๆ ต่อสาธารณะ ขณะที่ Sean Behr ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพ Zirx บอกว่าคุณจะบอกว่ามีกำไรอย่างไรก็ได้ แต่ถ้าเงินในบัญชีคุณมีน้อยลงมันก็ไม่ใช่แล้ว

ที่มา: Bloomberg, Recode ภาพ Pixabay

Blognone Jobs Premium