กูเกิลอธิบาย เหตุผลที่ Project Ara ลดความยืดหยุ่นลง เปลี่ยนอุปกรณ์ได้เพียงบางชิ้น

by mk
23 May 2016 - 17:38

ข่าวหนึ่งในงาน Google I/O 2016 ที่ผ่านมาคือ Project Ara เลื่อนเป็นปี 2017 และลดความยืดหยุ่นลงจากระบบที่ประกาศไว้ว่าปรับเปลี่ยนได้ทุกชิ้นส่วน มาเหลือแค่การเปลี่ยนแค่โมดูลเสริมเท่านั้น

ข่าวนี้สร้างความผิดหวังให้หลายคนที่สนใจ Project Ara ทางเว็บไซต์ CNET มีโอกาสสัมภาษณ์ Rafa Camargo หัวหน้าทีมวิศวกรของโครงการ ถึงสาเหตุในการปรับเปลี่ยนแผนการครั้งนี้

  • Camargo อธิบายว่าแนวคิดการสร้าง "โครง" (endoskeleton) แบบเดิมไม่เวิร์ค เพราะทดสอบเครื่องต้นแบบรุ่นเดิมกับผู้ใช้ พบว่าส่วนใหญ่ไม่แคร์เรื่องการถอดเปลี่ยน "ฟังก์ชันหลัก" ของระบบ แต่กลับคาดหวังว่ามือถือ Ara จะมีฟังก์ชันหลักเหล่านี้ทำงานได้เหมือนเดิมทุกครั้งเสมอ
  • ทางโครงการจึงต้องลดขอบเขตของงานลง จากมือถือถอดเปลี่ยนได้ทุกอย่าง มาเหลือการ max-and-match ผสมผสานโมดูลแทน
  • เบื้องต้น Project Ara Developer Edition ที่จะวางขายปีนี้ มี 4 โมดูลที่กูเกิลผลิตเองทั้งหมด ได้แก่ ลำโพง กล้อง สตอเรจเพิ่มเติม และหน้าจอ E-Ink
  • โมดูลลำโพงจะได้ Harman Audio มาร่วมพัฒนาฮาร์ดแวร์ด้วย การที่โมดูลลำโพงมีขนาดใหญ่ จะส่งผลให้เสียงดีขึ้น และน่าจะเป็นจุดขายสำคัญอย่างหนึ่งของ Ara
  • เราสามารถติดตั้งโมดูลเดียวกันหลายชิ้นได้ ตัวอย่างเช่น ใส่โมดูลลำโพงหลายชิ้น ร่วมกับโมดูลแบตเตอรี่อีกหลายชิ้น กลายเป็นเครื่องเสียงพกพา
  • การใส่โมดูลแบตเตอรี่เพิ่ม จะช่วยให้แบตอึดขึ้นอีก 45%
  • ในระยะยาว กูเกิลหวังว่าจะเห็นโมดูลแปลกใหม่จากนักพัฒนาภายนอก ตัวอย่างที่เขาพูดถึง เช่น รีโมทรถยนต์, สเปรย์พริกไทย, ตัววัดแอลกอฮอล์ในลมหายใจ, ตัววัดน้ำตาลในเลือดสำหรับคนเป็นเบาหวาน เป็นต้น
  • ตัวบัสเชื่อมต่อระหว่างโมดูล เรียกว่า Greybus ส่งข้อมูลได้ความเร็วสูงสุด 11.9 Gbps และกินไฟเพียงแค่หนึ่งในสามของ USB
  • สถานะของ Project Ara ตอนนี้คือเลื่อนชั้นจากโครงการภายใต้หน่วย Google ATAP มาอยู่ภายใต้การดูแลของ ทีมฮาร์ดแวร์ที่คุมโดย Rick Osterloh อดีตซีโอโอของ Motorola

ในงาน Google I/O กูเกิลยังโชว์การสั่งงานด้วยเสียง "OK Google, eject camera" แล้วโมดูลกล้องดีดตัวออกมาจากเครื่องด้วย

ที่มา - CNET

Blognone Jobs Premium