ในงาน Digital Thailand นอกจากมีบูธแบรนด์ดิจิทัล ทั้งภาครัฐและเอกชนมาออกบูธแสดงนวัตกรรมความพร้อมเข้าสู่ Digital Economy กันอย่างคึกคัก ในงานยังอัดแน่นด้วยงานสัมมนาน่าสนใจมากมาย ส่วนห้องสัมมนาที่แน่นขนัดจนต้องต่อสัญญาณเสียงและภาพไปอีกห้องคือ ห้อง Theme Digital Finance เทรนด์การเงินในระบบดิจิทัล และ Fintech แสดงให้เห็นว่าได้รับความสนใจมากจริงๆ
Alan Tien รองหัวหน้าคณะทำงานด้านกลยุทธ์และนวัตกรรมของ VISA ประจำ Asia Pacific หนึ่งในวิทยากรประจำการสัมมนาใน Theme Digital Finance พูดถึงอนาคตการจับจ่ายผ่านระบบดิจิทัลที่น่าสนใจคือ คนทั่วโลกสิงอยู่ในระบบ chat จะดีแค่ไหนถ้าแชททำได้ทุกอย่างแม้กระทั่งโอนเงิน จ่ายเงิน ซื้อของ
มันง่ายเพราะมีข้อมูลพื้นฐาน และการยืนยันตัวตนของเราในนั้น แม้ตอนนี้จะยังไม่ครอบคลุมแต่ก็มีบางแห่งที่กำลังทดลองทำ คือ Facebook ต้องยอมรับว่า Bank App กับ Chat App จำนวนคนใช้ไม่เท่ากัน Chat App มันมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด
อีกอย่างคือ IOT (Internet of Things) อนาคตมีการคาดการณ์ว่า จะมีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อผ่านระบบ Internet of Things ถึง 5 หมื่นล้านชิ้น เราสั่งการเครื่องซักผ้า ตู้เย็น เครื่องปิ้งขนมปังได้ด้วยระบบเชื่อมต่อ devices เข้ากับ internet ทำไมจะมีระบบ payment บ้างไม่ได้
เมื่อพูดถึงความปลอดภัย ทาง VISA ทำเรื่อง Tokenization อยู่ก่อนแล้ว เป็นนวัตกรรมด้านความปลอดภัยทางการเงิน เวลาซื้อของ ผู้ซื้อไม่ต้องโชว์เลขบัญชี หรือโชว์บัตรเครดิตหรือส่งหมายเลขบัตร 16 หลักไปทำรายการกับร้านค้าต่างๆ การทำงานคือ แปลงเลข 16 หลักแล้วเอาเลขที่แปลงแล้ววิ่งไปทำรายการที่ร้านค้า และวิ่งไปยังธนาคารผู้ออกบัตรเพื่อหักเงินในบัญชี เป็นการฝากข้อมูลไว้กับบริษัทที่ไว้ใจได้ แล้วอย่างนี้ถ้ามือถือหายล่ะ คุณ Alan ก็บอกว่า Tokenization รองรับเรื่องนี้อยู่แล้ว ถ้ามือถือหาย ก็แค่ไปเปลี่ยนข้อมูลใน Tokenization หรือ อัพเกรดใหม่ได้
Dr.Arbel Garamhegyi COO & Deputy CEO, Cellum Global Corp วิทยากรอีกคนของห้อง Digital Finance ให้ข้อมูลว่า ในอนาคตคาดว่าเงินที่จะไหลเข้าออกระบบ Payment จะสูงถึง ล้านล้านเหรียญฯ และเวลาผมใช้เงิน ผมไม่เคยต้องทำเรื่องยุ่งยากอีกต่อไป ทุกวันนี้เรามีแอพพลิเคชั่นช่วยจ่ายเยอะ และอนาคตอาจจะมีแอพฯเดียวที่ทำได้ทุกอย่างเป็นการควบรวมธุรกรรมต่างๆเข้ามาด้วยกัน
การใช้เงินสด มันมีต้นทุนของมัน มีการพิมพ์ธนบัตร ค่าขนส่ง ถึงได้บอกว่าเงินสดคือศัตรู ซึ่งมันดีกว่าง่ายกว่าแน่นอนถ้าควบรวมทุกอย่างมาไว้บนมือถือซึ่งเปนฮีโร่ของเราในเวลานี้ ซึ่งนี่เป็นเป็นวิสัยทัศน์ของ Cellum ด้วย
อีกประการหนึ่งคือ แอพฯต้องถูกใช้บ่อยๆ ไม่ใช่โหลดมาแล้ว ไม่ได้ใช้สุดท้ายลบทิ้ง ที่ต้องทำคือ ทำอย่างไรให้ผู้บริโภค ใช้แอพฯบ่อยๆจนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
ไม่เพียงแต่ Bank App หรือ Paypal ที่ทำการจับจ่าย โอนเงิน ทุกวันนี้ แอพแชทก็ทำได้เหมือนกัน โดยขณะนี้ Facebook กำลังทดลอง เท่าที่ผมรู้คือ เมื่อปีใหม่จีนที่ผ่านมา มีการจ่ายอั่งเปาถึงกว่า 8 พันซองผ่าน Wechat
Rahul Shinghal ผู้อำนวยการประจำ South East Asia ของ Paypal บอกว่า
ทุกวันนี้ Paypal ไม่เพียงเป็น Platform การจ่ายเงินให้กับลูกค้าที่เป็นรายใหญ่ แต่ยังเป็นขวัญใจรายเล็ก เพราะง่าย สะดวก ปลอดภัย หลักการทำงานของเราคือ บริหารความเสี่ยง ในปีนี้ ผมพบว่ามีการไหลเข้าออกของเงินผ่าน paypal เป็นพันๆล้านเหรียญฯ และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแค่ Paypal เท่านั้นแต่ทุกวันนี้เรามีเทคโนโลยีช่วยเรื่องการจ่ายเงินมากขึ้น จนระบบ offline แทบจะตายไปเลย
ผมมองว่า เรามีสิ่งแวดล้อมที่เอื้อให้สิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น ผมมีแนวโน้ม 2 อย่าง ที่อยากนำเสนอ
1.Contextual Commerce เมื่อก่อนเราต้อง search ก่อนที่จะซื้อของ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสินค้าและบริการวิ่งเข้าหาผู้ซื้อโดยผ่านทางมือถือและแอพพลิเคชั่นแล้ว
ช่องทางออนไลน์ทำให้คนขายรู้ว่า ต้องทำการตลาดอย่างไร โษณาสินค้าอย่างไรให้ตรงจุดมากขึ้น การ shopping จะไม่เกิดขึ้นบนหน้าเว็บของผู้ขายอีกต่อไป แต่จะเกิดขึ้นใน Social Media ต่างๆแทน Rahul ยกตัวอย่าง Pinterest ที่ผู้ใช้สามารถเลือกสินค้าตาม category ที่ตนสนใจ สินค้าวิ่งเข้าสู่มือผู้ซื้อ มาให้เลือกถึงหน้าจอ
กล่าวคือ การซื้อขายจะไม่เกิดขึ้นใน channel ที่ผู้ค้าเป็นคนคิด แต่ผู้ซื้อคิด และผู้ค้าวิ่งไปหา นี่เองเป็นตัวอย่างของ Contextual Commerce
2.Convergent Mobility วิวัฒนาการ และการควบรวม mobile และเอกลักษณ์ของตัวบุคคลเข้าด้วยกัน หลายๆอุตสาหกรรมพยายามทำ เช่น การเช็กอินเดินทางโดยใช้ Fingerprint สิ่งที่ Paypal อยากจะฝาก เพื่อให้อนาคต Digital Finance สมบูรณ์ขึ้น คือ “Be where your customers are”
งาน Digital Thailand จัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่วันที่ 26 - 28 พ.ค. 2559 จัดโดยกระทรวงไอซีที ในวันพรุ่งนี้ยังมีงานสัมมนาที่น่าสนใจอีก เช่น การจัดการศึกษาและการสร้างประชาชนยุคดิจิทัล แรงงานในยุคดิจิทัล เป็นต้น ดูรายละเอียดอื่นๆเกี่ยวกับงานได้ที่นี่