หนึ่งในฟีเจอร์เด็ดของ iPhone 6S ที่โดดเด่นกว่าสมาร์ทโฟนคู่แข่งรายอื่นคือความสามารถในการรับรู้แรงกดของปลายนิ้วบนหน้าจอสัมผัสที่เรียกว่า 3D Touch (จะมีเจ้าอื่นก็เพียง Huawei Mate S ที่สามารถแยกระดับแรงกดบนหน้าจอได้เช่นกัน) แต่จะดีกว่าไหมถ้าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ยี่ห้ออื่นๆ ก็สามารถรับรู้แรงกดหลายระดับบนหน้าจอเช่นเดียวกัน? ซึ่งก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ในทางเทคนิค เพราะงานวิจัยชื่อ ForcePhone จาก University of Michigan ทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นใดๆ มีความสามารถอย่างที่ว่าได้แล้ว
งานวิจัย ForcePhone นี้ ไม่เพียงแต่จะทำให้สมาร์ทโฟนรับรู้ได้ว่าผู้ใช้กดหน้าจอแรงหรือเบาเท่านั้น กระทั่งการออกแรงบีบด้านข้างตัวเครื่องก็สามารถรับรู้ได้เช่นกัน ซึ่งเบื้องหลังความสามารถเหล่านี้มิใช่การดัดแปลงหน้าจอเป็นพิเศษหรือติดตั้งฮาร์ดแวร์อย่างเซ็นเซอร์วัดแรงกดแต่อย่างใด อันที่จริงแล้วตัวฮาร์ดแวร์ที่จำเป็นต้องใช้สำหรับงานนี้มีเพียงลำโพงและไมโครโฟนเท่านั้น ซึ่งจะมีสมาร์ทโฟนเครื่องไหนที่ไม่มี 2 อย่างนี้บ้างล่ะ???
เทคนิคที่ทีมวิจัยใช้คือการปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูงออกมาทางลำโพงแล้วใช้ไมโครโฟนตรวจจับเสียงนั้นซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปตามลักษณะการจับและกดเครื่องสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ เพราะการจับและกดสมาร์ทโฟนที่แตกต่างกันอย่างน้อยก็ทำให้ทำให้คลื่นเสียงส่วนหนึ่งผ่านตัวเครื่องไปยังไมโครโฟนได้ไม่เหมือนกัน
คลื่นเสียงดังกล่าวมีความถี่ 18 kHz ซึ่งใกล้เคียงกับขอบเขตความถี่ของเสียงที่มนุษย์สามารถได้ยิน คือในช่วงความถี่ 20 Hz ถึง 20 kHz ซึ่งสำหรับบางคนแล้วจะไม่ได้ยินเสียงที่ความถี่ 18 kHz นี้เลย ในขณะที่คนอีกกลุ่มหนึ่งอาจจะรับรู้เสียงที่ความถี่ระดับนี้ได้เมื่อตั้งใจฟังโดยไม่มีเสียงอื่นรบกวนเท่านั้น (ลองทดสอบขอบเขตการได้ยินของตนเองได้ที่นี่)
ทีมวิจัยงาน ForePhone นี้ยังมีงานวิจัยที่ใช้เทคนิคตรวจจับเสียงสะท้อนของคลื่นเสียงความถี่สูงให้เป็นประโยชน์ ดังนี้
BumpAlert แอพสำหรับคนชอบเดินไปเล่นมือถือไป ใช้การตรวจคลื่นเสียงสะท้อนทำให้รู้ว่ามีวัตถุอยู่ข้างหน้า ร่วมกับตัววัดอัตราเร่งในเครื่องทำให้รู้ได้ว่ากำลังเคลื่อนที่ไปทางไหน และใช้กล้องหลังของสมาร์ทโฟนเพื่อดูภาพแล้วตัดสินว่าสิ่งที่ผู้ใช้กำลังจะเดินไปถึงนั้นเป็นอันตรายที่อาจเกิดการชน/สะดุดหรือไม่ แล้วจึงแจ้งเตือนด้วยการสั่น
EchoTag ใช้การจำรูปแบบคลื่นเสียงสะท้อน ทำให้รู้ได้ว่าตอนนี้สมาร์ทโฟนอยู่ตรงจุดไหนในบ้าน และสามารถสั่งการแอพหรือฟังก์ชั่นต่างๆ ได้อัตโนมัติ เช่น ตั้งเวลาปลุกและปิดเสียงเรียกเข้าเมื่อมันรู้ตัวว่าถูกวางอยู่บนโต๊ะหัวเตียง
ถึงตรงนี้ก็คงต้องลุ้นกันต่อว่าจะมีผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายไหนสนใจติดต่อเอางานวิจัย ForcePhone นี้ (และ/หรือ BumpAlert และ EchoTag) ไปใช้งานบ้าง
ที่มา - Michigan News via TechCrunch