[บทสัมภาษณ์] การกลับมาของ Illidan Stormrage ใน World of Warcraft: Legion

by trinakub
11 June 2016 - 12:57

ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กับภาคใหม่ของซีรี่ส์มหากาพย์ Warcraft ภาค World of Warcraft: Legion ตัวเอกหลักของภาคนี้ไม่ใช่ใครอื่นแต่คือ Illidan Stormrage ตัวละครขวัญใจของใครหลาย ๆ คนนั่นเอง

Illidan Stormrage ปรากฏตัวครั้งแรกตั้งแต่เกม Warcraft III: Reign of Chaos จนกระทั่งถูกผู้เล่นปราบลงไปในภาค Burning Crusade (ปี 2007) แต่เขากำลังจะกลับมาอีกครั้ง โดย Illidan จะกลับมาช่วยเหลือผู้เล่นในการต่อกรกับเหล่า Burning Legion ศัตรูที่น่าเกรงขามที่สุดในโลก Warcraft ภาค Legion นี้

การกลับมาของ Illidan เป็นสิ่งที่ทางทีมงาน Blizzard เตรียมการไว้นานแล้ว และมีโอกาสเริ่มทำเมื่อภาค Mists of Pandaria (ปี 2012) นี้เอง

Game Director คุณ Tom Chilton และ Senior Art Director คุณ Chris Robinson ให้สัมภาษณ์กับทาง GameSpot ถึงเบื้องหลังของการกลับมาของ Illidan ครั้งนี้

GameSpot: Illidan เป็นตัวละครที่เนื้อเรื่องน่าจะเสร็จสมบูรณ์ไปตั้งแต่ภาค Burning Crusade แล้ว ทำไมถึงนำเขากลับมาเป็นตัวละครหลักอีกครั้งหรือครับ หรือว่าวางแผนการคืนชีพของ Illidan ไว้ตั้งแต่ภาค Burning Crusade แล้ว?

Chilton: พวกเราพอจะมีลางสังหรณ์ว่าจะต้องนำเขากลับมาซักวันน่ะครับ ถึงพวกเราจะไม่รู้ก็ตามว่าวันนั้นคือเมื่อไร เนื้อเรื่องของ Illidan มีจุดที่เป็นปลายเปิดมากพอสมควร และในภาค Legion นี้เนื้อเรื่องส่วนใหญ่ที่เป็นปลายเปิดเหล่านั้นจะถูกนำมาเชื่อมโยงกันเกือบหมด ตอนที่คุณสร้างตัวละครอาชีพ Demon Hunter สถานการณ์แรกที่คุณจะได้เจอเลยคือ The Black Temple กำลังถูกจู่โจมอยู่ เนื้อเรื่องของอาชีพ Demon Hunter จะเริ่มจากจุดนี้ และเมื่อคุณกลับมาที่ The Black Temple อีกครั้ง จะได้เห็นฉากคัทซีนที่แสดงถึงเหตุการณ์หลังการบุกรุก The Black Temple จบลง หลังจากนั้นคุณจะได้เดินทางไปยัง The Broken Isles ที่นั่นมีเควสที่เกี่ยวข้องกับ Illidan อยู่ คุณจะค้นพบความทรงจำบางส่วนของ Illidan และรู้เรื่องราวของเขามากขึ้น รวมถึงจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ที่นำไปสู่ภาค Legion

Robinson: พวกเราเห็น The Burning Legion รุกรานดินแดนอื่น และพวกเราก็จัดการมันไปเรียบร้อยแล้ว แต่เรายังไม่ได้สัมผัสจริง ๆ ว่าการที่ถูกพวก Legion เอาบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญไป มันเป็นอย่างไร และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความคิดที่ว่าจะเป็นอย่างไรถ้า Legion มาบุกโลก Azeroth ของเรา ถ้าจะบอกเล่าเรื่องราวของ Legion สิ่งที่เป็นตัวกลางของเรื่องราวทั้งหมดคือ Illidan และเหล่า Demon Hunter ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับเหล่า Legion สูงมาก ดังนั้น Illidan จึงเป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้ในการแสดงให้เห็นถึงว่าการที่ Legion มาบุกโลก Azeroth มีความหมายอย่างไรกับผู้เล่นและโลกใบนั้น พวกเราหวังว่าภาคนี้จะเติมเต็มเรื่องราวที่เริ่มต้นขึ้นจากภาค Burning Crusade ได้ ผมเองก็คิดว่าเนื้อเรื่องหลาย ๆ อย่างใน Burning Crusade เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของสิ่งที่พวกเราอยากจะทำกับตัวละครและเนื้อเรื่องของ Legion เท่านั้น

Chilton: Illidan นี่อาจเรียกว่าเป็นตัวตนของ Anti-Legion เลยก็ว่าได้?

Gamespot: แล้วอาชีพ Demon Hunter ล่ะครับ ได้มีตัวเลือกอื่น ๆ อีกไหม หรือว่ามีแผนที่จะนำเผ่าใหม่เข้ามาด้วยเช่นกัน?

Chilton: สำหรับภาคนี้ มีแค่อาชีพ Demon Hunter เท่านั้นครับ พวกเราพูดเสมอว่า “อาชีพของตัวละครภายในเกมน่ะ จะมีมากเกินไปไม่ได้เด็ดขาด” มันก็มีขีดจำกัดของจำนวนอาชีพที่เพิ่มเข้าไปได้ ก่อนที่มันจะเริ่มซ้ำกันน่ะครับ แต่พวกเราก็พูดอยู่เสมอเช่นกันว่า “แต่ถ้าจะมีอีกซักอาชีพละก็ ยังไงก็ต้องเป็น Demon Hunter เท่านั้น!” และภาคนี้ก็เหมาะเจาะกับอาชีพนี้พอดี ในภาค Burning Crusade พวกเราก็คิดนำอาชีพนี้ใส่เข้าไปในตอนนั้นเช่นกัน แต่ในภาคนั้นเราเลือกที่จะสร้างเผ่าใหม่ขึ้นมาแทน ดังนั้นในภาคนี้พวกเราจึงใส่เข้าไปเต็มที่ ทุ่มทุกอย่างให้กับอาชีพนี้ ด้วยเหตุนี้พวกเราเลยไม่ได้ให้ความสนใจเผ่าใหม่เท่าไร

Gamespot: พอจะอธิบายได้หรือเปล่าครับ ถึงกระบวนการในการคัดเลือกภาคใหม่ มีจุดเริ่มต้นอย่างไร?

Chilton: เป็นกระบวนการที่ยาวพอสมควรเลยละครับ พวกเราได้เริ่มคอนเซ็ปต์ Legion มาตั้งแต่ภาค Mists of Pandaria แล้ว ในขณะนั้นพวกเรามีความคิดอยู่บ้างแล้วว่าเนื้อเรื่องภาค Mists of Pandaria จะนำไปสู่ภาค Warlord of Draenor และต่อด้วยภาค Legion ในท้ายที่สุด การดีไซน์ของภาคนี้บางส่วนเริ่มตั้งแต่ตอนนั้นเลยด้วยซ้ำ เพื่อให้จับใจความถึงแก่นของเรื่องให้ได้ไวที่สุด

Robinson: พวกเราทุกคนเองก็ชื่นชอบ Warcraft เช่นกัน และผมคิดว่านี่ล่ะคือปัจจัยหลักในการทำงานของพวกเรา พวกเราหลายคนเริ่มทำตั้งแต่เข้าร่วมโปรเจคนี้จนถึงปัจจุบัน สิ่งที่เจ๋งสุด ๆ ไปเลยในกระบวนการคัดสรรภาคต่อคือการที่พวกเราได้เข้าไปนั่งอยู่ในห้องด้วยกัน พูดคุยถึงเรื่องที่ว่า นี่ไม่ใช่แค่โอกาสที่จะดำเนินเนื้อเรื่องต่อเท่านั้น แต่เป็นโอกาสที่ได้สัมผัสกับหลาย ๆ อย่างที่เป็นหนึ่งในเรื่องราวของพวกเรา ที่พวกเราในฐานะผู้เล่นอยากเห็นและอยากทำ ซึ่งมันเป็นอะไรที่เยี่ยมจริง ๆ ในการที่เข้าไปนั่งในห้องและเริ่มพูดคุยถึงประเด็นว่า เราไปถึงไหนกันแล้ว ในภาคที่แล้วเราเลือกบรรยากาศในเกมแบบไหนกัน ซึ่งในตอนนั้น Mists of Pandaria ก็ทำเสร็จพอดีและมันก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากภาคก่อนหน้ามาก ภาคนี้ได้ให้ไอเดียที่แปลกใหม่ ที่พวกเราไม่เคยสัมผัสมาก่อน ในตอนนั้นพวกเราก็ถามกับตัวเองกลับไปกลับมาว่า เราจะนำเนื้อเรื่องกลับเข้าสู่โลกแฟนตาซีแบบ Warlords of Draenor ดีไหม หรือเราจะลองอะไรใหม่ ๆ แบบภาค Mists of Pandaria ดี ซึ่งคำตอบสุดท้ายที่พวกเราได้ออกมาในฐานะแฟน ๆ ผู้เล่น และผู้สร้าง คือ พวกเราอย่างจะกลับมาเล่าเรื่องราวนั้นต่อ

Gamespot: World of Warcraft เป็นหนึ่งในเกม MMO ที่อยู่มายาวนานและประสบความสำเร็จมากที่สุดเกมหนึ่งของโลก อะไรคือปัจจัยหลักที่ทำให้เกมสามารถดำรงมาได้ยาวนานถึงขนาดนี้?

Robinson: ผู้เล่นครับ ก่อนอื่นเลยผมคิดว่าสิ่งที่พวกเราทำได้มีเพียงแค่สร้างเวทีขึ้นมาให้ผู้เล่นเท่านั้น และผู้เล่นเหล่านั้นก็จะเล่นในรูปแบบของพวกเขา พวกเขาจะได้พวกเจอกับผู้คนที่พวกเขาจะได้เจอ นำพาเพื่อนของพวกเขาเข้ามาภายในเกม สร้างเพื่อนใหม่ภายในเกม และนั่นก็เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบการพัฒนาเกมและการตัดสินใจของพวกเรา

ผมคิดว่ามันเป็นดาบสองคม มันจะส่งผลด้านลบได้ถ้าพวกเราฟังเสียงของผู้เล่นมากเกินไป พวกเราต้องยืนหยัดในสิ่งที่พวกเรารู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องสำหรับเกมด้วย แน่นอนว่าเมื่อพวกเราทำเกมออกมา ติดสินใจบางอย่างลงไป และเฝ้ารอดูผลว่าสิ่งที่เราทำลงไปมีผลต่อเกมและประสบการณ์ในการเล่นของผู้เล่นอย่างไรบ้าง สิ่งเหล่านี้จะบ่งบอกให้เรารู้เองถึงทิศทางที่พวกเราควรจะเดินไปในอนาคต

จากมุมมองของผมแล้ว แค่คิดให้เหมือนผู้เล่นซะ คุณมีโอกาสที่จะได้เปลี่ยนแปลงโลกที่คุณกำลังอยู่ การตัดสินใจของคุณจะส่งผลต่อโลกที่คุณกำลังอยู่ โลกที่เป็นของคุณ คุณเป็นส่วนหนึ่งของโลกนั้นและสัมผัสได้ถึงความเป็นเจ้าของ คุณต้องการดูแลโลก Azeroth รวมถึงผู้อยู่อาศัยภายในเกม เราสามารถทำให้มันสวยงามได้ ออกแบบให้เลิศ ตัดสินใจทำสิ่งที่ยอดเยี่ยมลงไป แต่ถ้าผู้เล่นไม่ขับเคลื่อนมัน ไม่ตอบสนองต่อมัน มันจะเป็นอะไรที่รู้สึกตื้นเขินมาก และจะไม่มีทางอยู่มาได้นานถึงขนาดนี้แน่นอน

GameSpot: สุดท้ายแล้ว พอจะบอกได้ไหมครับ ว่าอะไรบ้างในภาค Legion ที่เป็นผลมาจากความคิดเห็นของผู้เล่น

Chilton: ถ้าให้พูดรวม ๆ ก็ทุกอย่างครับ ยกตัวอย่างเช่น ความคิดเห็นของผู้เล่นที่ส่งผลต่อเนื้อหาในช่วงท้ายเกม พวกเราได้ลองอะไรที่แปลกใหม่กับภาค Warlords ด้วยการสร้างเควสรายวันที่หลากหลายขึ้นมา ในภาค Mists ภาคเราได้ทำเควสรายวันขึ้นมาแต่ได้รับผลตอบรับมาว่ามันซ้ำซากจำเจเกินไป ดังนั้นพวกเราจึงคิดว่าถ้าให้เลือกสถานที่ที่จะไปได้ในแต่ละวัน มันจะรู้สึกถึงความเป็นอิสระมากขึ้น แต่สุดท้ายผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ค่อยเป็นที่น่าพอใจเท่าไร เพราะฉะนั้นในภาค Legion พวกเราจึงเน้นที่ World Quest แทน นี่เป็นแค่ตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ทุกอย่างที่พวกเราทำส่วนใหญ่จะมาจากความรู้สึกที่ผู้เล่นได้บอกให้ทางเรารับรู้

Robinson: ผมเองก็คิดว่ามันมีผลในทุก ๆ เรื่องเช่นกัน ตั้งแต่การตัดสินใจใหญ่ ๆ อย่างที่คุณ Chilton พูดถึง ไปจนถึงรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งจริง ๆ แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยซักเท่าไรนัก มันเป็นสิ่งที่สำคัญเลยละ อย่างเช่นการปรับแต่งตัวละครของอาชีพ Demon Hunter ตอนแรกที่พวกเราได้ออกแบบเขา รอยสัก และ สีผิว ออกมา พวกเราก็ได้รับผลตอบรับว่าไม่มีตัวเลือกที่น่าดึงดูด หรือไม่ก็รอยสักพวกนี้ไม่เข้ากับความเป็นแฟนตาซีที่ทางผู้เล่นคิดว่าจะได้รับจากอาชีพ Demon Hunter พวกเราได้ลองฟังอะไรหลาย ๆ อย่าง และกลับมาดูในสิ่งที่พวกเราทำพร้อมทำการปรับแต่งมัน พวกเราได้ลองทำการปรับแต่งระบบสร้างตัวละคร ได้ลองสร้างอาวุธอาร์ติแฟค และลองฟังความเห็นของผู้เล่นว่าแฟนตาซีคืออะไร เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านั้นจึงขึ้นอยู่กับประสบการณ์และแฟนตาซีของผู้เล่นว่าสิ่งเหล่านั้นจะมีหน้าตาอย่างไร ด้วยเหตุนี้พวกเราจึงได้ลองสร้างอาร์ติแฟคออกมาหลาย ๆ แบบให้ผู้เล่นได้ลองกัน และเป็นโอกาสที่พวกเราจะได้รับฟังความคิดเห็นของผู้เล่นและนำมาปรับแต่งด้วย

ที่มา – GameSpot

Blognone Jobs Premium