DeepMind จับมือกับ NHS มีแผนนำ AI เข้าสู่ระบบสุขภาพเต็มตัว

by sunnywalker
14 June 2016 - 06:07

หลังจาก DeepMind เข้าสู่ตลาดการแพทย์ และประกาศความร่วมมือกับมูลนิธิ Ryal Free London NHS หรือบริการสุขภาพแห่งชาติของสหราชอาณาจักร เคยร่วมกันสร้างซอฟต์แวร์ Streams ที่ช่วยให้แพทย์ผู้ปฏิบัติงานสามารถดูผลแล็บของผู้ป่วยได้ในไม่กี่วินาที (เป็นโปรเจกต์เก่าปัจจุบันไม่ได้ใช้งานแล้ว) ล่าสุดทั้งสองมีโครงการใหม่ร่วมกันคือ นำระบบปัญญาประดิษฐ์มาประยุกต์ใช้ในการรักษาโรคให้ได้ภายใน 5 ปี ทำ MOU แล้วเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

ใน MOU ยังระบุความสนใจร่วมกัน ดังนี้

  • วินิจฉัยโรคเบื้องต้นแบบ real-time
  • วิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพ ความเสี่ยง ระดับอาการ ความเป็นไปได้ที่จะกลับมาเป็นโรคซ้ำ ความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต
  • การส่งข้อความสื่อสารระหว่างกัน รวมถึง task management สำหรับหมอที่ประสบการณ์ยังน้อย
  • เครื่องมือควบคุมด้านการเงิน ที่ให้คนไข้หลีกเลี่ยงการตรวจเลือดซ้ำโดยไม่จำเป็น
  • วิเคราะห์ข้อมูลได้จากภาพในทางการแพทย์
  • มอนิเตอร์ อัตราการเต้นหัวใจเด็กในท้อง โดยใช้เครื่องมือ CTG Scan

ส่วนหนึ่งของ MOU ระบุด้วยว่า ความหวังหนึ่งของ Deepmind ในการทำงานร่วมกับ NHS คือหวังว่าจะได้รับข้อมูลเพื่อช่วยการทำงานของ Machine Learning แต่การได้มาอยู่ในขอบเขตของกฎข้อบังคับและความเหมาะสมทางจริยธรรม

อย่างไรก็ตามมีข้อถกเถียงเกี่ยวกับข้อมูลคนไข้ว่า ควรหรือไม่ที่จะให้มีการแชร์ข้อมูลคนไข้เป็นล้านคนระหว่างบริการสุขภาพแห่งชาติ กับ Deepmind ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Google

Streams ซอฟแวร์ที่ DeepMind และ NHS ร่วมกันสร้าง ปัจจุบันไม่ได้ใช้งานแล้ว

กลุ่ม MedConfidential ที่โปรโมทเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลสุขภาพระบุว่า จากซอฟต์แวร์ Streams (ที่ตอนนี้ไม่ได้เปิดใช้แล้ว) ทำไมต้องแชร์ข้อมูลสุขภาพของคนไข้จำนวนมากผ่านซอฟต์แวร์เพียงเพื่อต้องการดูผลแล็บเท่านั้น ส่งผลให้ มูลนิธิ NHS และ Deepmind ต้องคำนึงถึงข้อจำกัดของการแชร์ข้อมูลสุขภาพที่สามารถระบุตัวตนของคนไข้ได้ อาจต้องปฏิบัติตามข้อปฎิบัติซึ่งสรุปได้ว่า

  • การใช้หรือโอนถ่ายข้อมูลสุขภาพผู้ป่วยต้องระบุให้ชัดเจน ควรใช้เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น
  • การเข้าถึงข้อมูลควรมีความเข้มงวดสูงสุด
  • ผู้ที่มีสิทธิ์จัดการข้อมูลนั้นต้องมีความรับผิดชอบต่อตัวคนไข้ด้วย
  • การใช้และโอนถ่ายข้อมูลต้องอยู่ในกฎหมาย
  • หน้าที่แชร์ข้อมูลคนไข้ สำคัญเท่ากันกับการปกป้องความลับของคนไข้

ที่มา - Techcrunch

Blognone Jobs Premium