ดูเหมือนกว่าโหมดประหยัดพลังงานของ Opera ที่ช่วยประหยัดแบตถึง 50% จะไม่ได้เจ๋งที่สุดเสียแล้ว
เมื่อไมโครซอฟท์เทียบการใช้พลังงานของเบราว์เซอร์ชั้นนำสี่ตัว คือ Microsoft Edge, Chrome, Firefox และ Opera ในสามรูปแบบ ผลการทดสอบโดยไมโครซอฟท์นี้ก็แสดงให้เห็นว่า Microsoft Edge ชนะในทุกกรณี
วิธีการทดสอบประกอบด้วยได้แก่ การวัดอัตราบริโภคพลังงานในสภาพแวดล้อมแบบควบคุมภายในห้องแล็บ, ตรวจสอบบันทึกการใช้พลังงานจากอุปกรณ์ Windows 10 นับล้าน (ผมเข้าใจว่ามันคือ telemetry data ที่ Windows 10 เก็บไปจากผู้ใช้ตามในข่าวนี้) และสุดท้ายคือบันทึกวิดีโอ time-lapse ของเบราว์เซอร์แต่ละตัวที่ทำงานเดียวกันจนกระทั่งแบตเตอรี่หมด
ในการทดสอบแรก แม้จะทดสอบในสภาพแวดล้อมแบบควบคุมแต่ก็ยังใช้การทดสอบแบบใช้งานทั่วไป เช่น เปิดเว็บทีละหลายแท็บ, อ่านเมล หรือเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ค ทดสอบโดยต่อ Surface Book เข้ากับอุปกรณ์ตรวจวัดพลังงานแบบพิเศษ และวัดการใช้พลังงานระหว่างกิจกรรมต่างๆ ในเบราว์เซอร์แต่ละตัว ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่า Microsoft Edge เป็นเบราว์เซอร์ที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงานมากกว่าที่ 36-53% (Opera ใช้โหมดประหยัดพลังงานในการทดสอบนี้)
การทดสอบถัดมาคือผลจากการใช้งานจริงที่บันทึกจากอุปกรณ์ Windows 10 นับล้านทั่วโลก และเนื่องจากบันทึกมาจากผู้ใช้ทั่วโลกจึงเป็นผลจากการใช้งานทั่วไปแบบไม่ได้ควบคุม ผลจากบันทึกนี้ก็แสดงไปในทางเดียวกับผลจากแล็บในการทดลองก่อนหน้า แสดงให้เห็นว่า Microsoft Edge มีประสิทธิภาพด้านพลังงานมากกว่าคู่แข่งในการใช้งานจริงๆ (ไม่มีผลของ Opera)
ส่วนการทดสอบสุดท้าย เปรียบเทียบเมื่อเปิดวิดีโอสตรีมมิงความคมชัดสูงบน Surface Book ที่รัน Microsoft Edge, Google Chrome, Mozilla Firefox และ Opera เวอร์ชันล่าสุด (ไม่บอกว่า Opera เปิดโหมดประหยัดพลังงานหรือไม่) ผลออกมาตามวิดีโอด้านล่างนี้ครับ
แม้การทดสอบนี้จะจัดโดยไมโครซอฟท์แต่ก็มีผลการทดสอบโดย Wall Street Journal ที่ชี้ไปในทางเดียวกันว่า Microsoft Edge เป็นเบราว์เซอร์ที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงานสูงสุดทั้งการใช้งานทั่วไปและสตรีมมิง
ทั้งนี้ Opera ที่ใช้ทดสอบมีโหมดประหยัดพลังงานตามที่ได้กล่าวไว้ในย่อหน้าแรก และ Chrome ที่ผลออกมาดูไม่ดีนักเองก็เพิ่งปรับปรุงด้านการใช้พลังงานไปเร็วๆ นี้ครับ
ฝั่ง Microsoft Edge เองแม้ผลจะออกมาดีมากแล้ว แต่ก็ยังมีแผนที่จะทำให้ดียิ่งขึ้นไปอีกใน Windows 10 Anniversary Update ใครสนใจลองอ่านได้ที่ Microsoft Edge Dev ครับ
ที่มา - Windows Experience Blog - Get more out of your battery with Microsoft Edge