รีวิว Gear Fit 2 การกลับมาอย่างสมบูรณ์แบบของ Gear Fit

by advertorial
27 June 2016 - 05:54

ปฏิเสธไม่ได้ว่าอุปกรณ์สวมใส่ในปัจจุบัน กำลังเป็นแก๊ดแจ็ตที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ โดยเฉพาะอุปกรณ์สวมใส่ด้านสุขภาพ จากการที่ผู้คนเริ่มหันมาสนใจสุขภาพตนเองกันมากยิ่งขึ้น

ทางซัมซุงเองมีผลิตภัณฑ์ในตระกูล Gear Fit เป็นตัวชูโรงด้านนี้ และปีนี้ก็เปิดตัว Gear Fit 2 ที่ได้รับการออกแบบใหม่ รวมถึงปรับปรุงจุดบกพร่องต่างๆ ในรุ่นแรกและแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น

ตัวเรือน

Gear Fit 2 ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีขอบจอ (bezel) ขนาดเล็กลง ขณะที่หน้าจอก็เนียนเรียบไปกับสายรัด ซึ่งต้องบอกว่าดูสวยงาม กลมกลืนและเข้ากับข้อมือขณะสวมใส่มากกว่ารุ่นแรก หน้าจอเป็น Super AMOLED แบบโค้ง ให้สีสว่างสดใส สู้แดดกลางวันได้ค่อนข้างดี ด้านขวาของตัวเครื่องเป็นปุ่มฟังก์ชัน 2 ปุ่มคือปุ่ม back ด้านบนและปุ่ม home ด้านล่าง

ส่วนด้านล่างของตัวเรือนจะเป็นเซ็นเซอร์ทั้งวัดอัตราการเต้นของหัวใจ วัดอัตราเร่ง วัดการทรงตัว (Gyroscope) และบารอมิเตอร์

ขณะที่ตัวสายเป็นยางซิลิโคนอย่างดี มีคุณสมบัติยืดหยุ่น ไม่ลอก ไม่ขาด ไม่ทำให้รู้สึกระคายเคืองเวลาสวมใส่ ไม่มีกลิ่นติด ทำความสะอาดง่ายและที่สำคัญคือไม่หลุดง่าย โดยสายจะมีตัวล็อกเข้ากับตัวเรือน เวลาต้องการดึงสายออก เพียงแต่กดปุ่มล็อกและดึงสายออกตามแนวตั้ง

ติดตามสุขภาพตลอดเวลากับ Gear Fit 2

อย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่าทางซัมซุงกลับไปทำการบ้านและแก้ไขข้อด้อยต่างๆ ที่มีใน Gear Fit รุ่นแรก ทำให้ Gear Fit 2 ที่ออกมาใหม่นี้มีความพร้อมและครบถ้วนสมบูรณ์ในตัวมันเอง ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสมาร์ทโฟนตลอดเวลา และที่สำคัญคือกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 หมดห่วงเรื่องเหงื่อหรือฝนตกไปเลย

ฟีเจอร์อย่างแรกเลยที่ Gear Fit 2 เพิ่มเข้ามาคือ GPS ในตัว ทำให้การใส่ Gear Fit 2 ไปออกกำลังกายกลางแจ้ง ไม่ต้องพกสมาร์ทโฟนให้หนักโดยไม่จำเป็นอีกต่อไป ขณะเดียวกันก็สามารถเก็บข้อมูลด้านสุขภาพได้แบบ real-time ทั้งระยะทาง จำนวนก้าว และอัตราการเต้นของหัวใจ โดยข้อมูลทั้งหมดจะซิงก์เข้ากับแอพ S Health บนสมาร์ทโฟนในภายหลัง

นอกจากเรื่อง GPS แล้ว Gear Fit 2 ที่มาพร้อมกับความจุ 4GB สามารถอิมพอร์ตเพลงจากสมาร์ทโฟนผ่านแอพ Samsung Gear และเพียงแค่เชื่อมต่อ Gear Fit 2 เข้ากับหูฟังบลูทูธไร้สายก็สามารถฟังเพลงระหว่างออกกำลังกายได้แล้ว เราสามารถปรับเสียงหรือเปลี่ยนเพลงได้จาก Gear Fit 2 โดยตรง เพียงแค่ปัดหน้าต่างด้านบนลงมาและเลือก Music Player เท่านั้น

โหมดออกกำลังกายบน Gear Fit 2 ก็มีให้เลือกมากมาย มีตั้งแต่การออกกำลังกายเบสิกอย่างการเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน ไปจนถึงการปีนเขา โยคะ และออกกำลังกายบนเครื่องเล่นต่างๆ เราสามารถเปิดโหมดออกกำลังกายได้ง่ายๆ ด้วยการกดปุ่ม home 2 ครั้ง เพื่อเริ่มการตรวจจับและวัดค่า

ขณะที่การใช้งานในชีวิตประจำวัน Gear Fit 2 จะตรวจจับการเคลื่อนไหวของเราอยู่ตลอดเวลา ทั้งนับจำนวนก้าว วัดจำนวนชั้นที่เราเดินขึ้น รวมถึงจังหวะการเต้นของหัวใจ และหากเราอยู่เฉยๆ ไม่ได้ขยับร่างกายเป็นระยะเวลาหนึ่ง Gear Fit 2 ก็จะแจ้งเตือนว่าเราอยู่นิ่งนานไปแล้วนะ

และหากเราเดินอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหนึ่ง Gear Fit 2 ก็จะแจ้งเตือนและจับเวลาขึ้นมาให้อัตโนมัติว่าเราเดินต่อเนื่องเป็นเวลากี่นาทีแล้ว หากเราสามารถขยับร่างกายได้ถึงระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะทั้งจำนวนก้าวที่เดินหรือจำนวนขั้นบันไดที่ขึ้น เครื่องก็จะมีถ้วยรางวัลให้เราด้วย

การใช้งานอื่นๆ ของ Gear Fit 2

นอกจากการตรวจจับสุขภาพแล้ว แน่นอนว่า Gear Fit 2 ยังคงทำหน้าที่แจ้งเตือนต่างๆ ทั้งจากแอพ เมสเสจและเมื่อมีสายเรียกเข้า พร้อมทั้งสามารถปฏิเสธหรือตอบข้อความสั้นๆ กลับไปได้ในกรณีที่ไม่สะดวกจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา รวมถึงส่งเป็นสติ๊กเกอร์สำหรับไลน์ก็ได้เช่นกัน (สามารถตั้งค่าได้จากแอพ Samsung Gear ว่าจะให้แอพอะไรแสดงการแจ้งเตือนบน Gear Fit 2 บ้าง)

Gear Fit 2 ให้แบตเตอรี่มา 200 mAH ซึ่งจากการใช้งานจริงสามารถอยู่ได้นานราว 2.5-3 วัน พร้อมโหมดประหยัดพลังงาน ที่ทำให้แบตเตอรี่ที่เหลือเพียง 10% สามารถอยู่ต่อได้อีกประมาณครึ่งวัน

ส่วนการชาร์จ จะชาร์จผ่านแท่นแบบไร้สายที่มาพร้อมกับ Gear Fit 2 และใช้เวลาชาร์จจาก 0% ไปครบ 100% ในเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น

สรุป

เรียกได้ว่าการกลับมาคราวนี้ของ Gear Fit ซัมซุงทำการบ้านมาดีมาก ปรับปรุงและแก้ปัญหาที่เกิดกับรุ่นแรกอยู่พอสมควร โดยเฉพาะการออกแบบตัวเรือนใหม่ การมี GPS และรองรับการฟังเพลงในตัว ช่วยลดปัญหาการสวม Smart Device โดยยังคงต้องพึ่งพาสมาร์ทโฟนตลอดเวลาลงไปได้พอสมควร

สำหรับผู้ที่สนใจ Gear Fit 2 เริ่มขายแล้ววันนี้ในราคาเพียง 6,500 บาท ก่อนที่จะวางขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กรกฎาคม มีเฉพาะสีดำเท่านั้น

Blognone Jobs Premium