เมื่อปีที่แล้ว Google นำ Wi-Fi ฟรีความเร็วสูงให้บริการทั่วสถานีรถไฟในอินเดีย โดยเป็นความร่วมมือกับรัฐบาลและ Railtel ซึ่งเป็นแผนกโทรคมนาคมของการรถไฟอินเดีย โดยในเฟสแรกจะเปิดให้บริการใน 100 สถานีที่คนพลุกพล่านก่อน และจะขยายไปให้ถึง 400 สถานี
ตอนนี้โครงการได้เริ่มดำเนินการแล้ว ซึ่ง Google ได้เผยว่าตอนนี้ได้ติดตั้ง Wi-Fi ฟรีไปแล้วกว่า 19 สถานี มีผู้ใช้งานรวม 1.5 ล้านคน และถ้าติดตั้งถึง 100 สถานีน่าจะมีผู้ใช้งานถึง 10 ล้านคน
ปัจจุบันอินเดียเป็นประเทศที่มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตมากที่สุดเป็นอันดับสองรองจากจีน โดยประมาณการจำนวนผู้ใช้อยู่ที่ 402 ล้านคน แต่ความเร็วในการเชื่อมต่อโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 2.8Mbps ต่ำที่สุดในเอเชียแปซิฟิก โดยโครงการ Wi-Fi ฟรีของ Google นี้จะมีผลกับเมืองเล็ก ๆ ของอินเดียที่บริการอินเทอร์เน็ตแบบบรอดแบนด์ความเร็วสูงเข้าถึงยาก
ตอนที่ Google เริ่มโครงการที่สถานีรถไฟ Mumbai Central ในเดือนมกราคมนั้นมีผู้ใช้ถึง 1 แสนคนในสัปดาห์แรกของการติดตั้ง ส่วนเมืองในอินเดียฝั่งตะวันออกอย่าง Bhubaneswar นั้นมีผู้ใช้แซง Mumbai ได้ใน 1 วัน และตอนนี้เมืองเล็ก ๆ อย่าง Jaipur, Bhubaneswar, Visakhapatnam และ Patna ก็มีผู้ใช้แซง Mumbai ในแง่ปริมาณข้อมูลไปแล้วเช่นกัน โดย Google เผยว่าปริมาณข้อมูลที่ใช้ต่อเมืองของเมืองที่ห่างไกลนั้นถือว่าแซงเมืองหลวงไปแล้ว และเมื่อคำนวณปริมาณข้อมูลต่อผู้ใช้ที่ใช้ Wi-Fi ความเร็วสูงนี้พบว่าสูงกว่าเครือข่าย 3G ถึง 15 เท่า
Google ไม่ได้กล่าวว่าความเร็วโดยเฉลี่ยของเครือข่าย Wi-Fi ที่ติดตั้งในอินเดียนี้เป็นเท่าไร โดยบอกเพียงว่าผู้ใช้ทุกคนจะใช้งานได้เร็วพอที่จะสตรีมมิ่งวิดีโอแบบ HD ได้ โดยตอนนี้บริการ Wi-Fi ยังฟรีอยู่ แต่ Railtel อาจจะเก็บเงินจากผู้ใช้บ้างเมื่อหมดช่วงเวลาฟรีแล้วเพื่อทำให้โครงการอยู่ได้
แผนการติดตั้ง Wi-Fi ให้ได้ 400 สถานีนั้น Google จะใช้เครือข่าย fiber optic ของ Railtel โดยการติดตั้ง Wi-Fi ของแต่ละสถานีก็จะมีความท้าทายแตกต่างกันไป อย่างเช่น Mumbai Central ที่เป็นสถานียุคสมัยที่อังกฤษปกครอง หลังคาจึงสูงมาก, Gorakhpur เป็นสถานีรถไฟที่มีชานชาลายาวที่สุดในโลก ซึ่ง Azad บอกว่าต้องกระจายจุดเชื่อมต่อไปให้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นห้องสำหรับรอรถไฟ, สถานที่ซื้อตั๋ว, ทางเข้า และชานชาลา เพราะไม่ใช่เครือข่าย hotspot แต่เป็น Wi-Fi เมือง
ที่มา - Mashable, Google India