Nest บริษัทลูกของ Alphabet ได้ยื่นจดสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์เปลเด็กอัจฉริยะ โดยเปลที่ว่านี้จะมีเซ็นเซอร์และกล้องถ่ายภาพเพื่อคอยเฝ้าดูเด็กที่อยู่ในเปล
เปลในที่นี้อาจจะต่างกับเปลเด็กที่คนไทยคุ้นเคยอยู่สักหน่อย หากเรียกว่าคอกก็ดูจะเหมาะสมกับลักษณะของมันมากกว่า โดยเปลตามแนวคิดสิทธิบัตรของ Nest นั้นจะมีกล้องถ่ายภาพเพื่อสตรีมภาพสดๆ ไปยังโทรศัพท์หรืออุปกรณ์อื่นเพื่อให้ผู้ปกครองสามารถเฝ้าดูเด็กได้ตลอดเวลา นอกจากนี้มันจะมีเซ็นเซอร์เพื่อสำรวจพฤติกรรมของเด็ก และเก็บข้อมูลเพื่อวิเคราะห์หาความเปลี่ยนแปลงของเด็กตลอดจนสิ่งแวดล้อมรายรอบเปลนั้น
Nest ยกตัวอย่างการใช้เซ็นเซอร์ไว้หลากหลายรูปแบบ อาทิ เซ็นเซอร์วัดแรงกดบนพื้นของเปลเพื่อตรวจหาตำแหน่งของเด็ก, เซ็นเซอร์วิเคราะห์อากาศที่จะช่วยให้รู้ได้ว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมหรือไม่และช่วยให้รู้ว่าในบริเวณที่เด็กอยู่มีปริมาณก๊าซอันตราย (เช่น ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์) หรือไม่, เซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหวเพื่อให้แน่ใจว่าเด็กไม่ได้แน่นิ่งผิดปกติ, เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิเพื่อใช้ควบคุมสภาพอากาศให้เด็กอยู่ได้สบาย, ไมโครโฟนและอัลกอริทึมเพื่อตรวจสอบว่าเด็กร้องไห้ หรือมีการไอ/จามหรือไม่, เซ็นเซอร์ประตูของเปลเพื่อให้แน่ใจว่าประตูถูกปิดล็อกไว้แน่นหนาดีแล้ว เป็นต้น
ไม่เพียงแต่สารพัดเซ็นเซอร์ที่ Nest คิดว่าจะใส่ลงไปในเปลอัจฉริยะของพวกเขาได้เท่านั้น คำขอจดสิทธิบัตรของ Nest ยังระบุว่าเปลนี้จะสามารถกระทำบางสิ่งเพื่อบรรเทาเหตุความไม่สบายของเด็กได้โดยอัตโนมัติด้วย เป็นต้นว่า เมื่อเด็กร้องไห้ เครื่องฉายโปรเจ็กเตอร์จะฉายการ์ตูนขึ้นไปบนเพดาน ในขณะที่ลำโพงในเปลก็จะเปิดเสียงเพื่อดึงความสนใจของเด็ก หรือในยามที่เด็กงอแงไม่ยอมนอนก็อาจมีการเล่นเพลงกล่อมเด็กออกมาเบาๆ เพื่อกล่อมเกลาเด็กให้นอนหลับได้โดยง่าย
ถ้าหากวันหนึ่ง Nest ได้รับสิทธิบัตรฉบับนี้และตัดสินใจทำเปลอัจฉริยะเป็นผลิตภัณฑ์ออกวางขายจริง ก็น่าคิดว่าสิ่งประดิษฐ์นี้จะทำให้พ่อและแม่ห่างเหินจากลูกของพวกเขามากกว่าเดิมหรือไม่ การเลี้ยงลูกที่ดูเหมือนจะกลายเป็นหน้าที่ของเครื่องจักรและคอมพิวเตอร์มากขึ้นทุกทีเป็นเรื่องดีแล้วหรือ? คงเป็นหัวข้อการสนทนาได้อีกนานต่อไป
ที่มา - Gizmodo, ข้อมูลสิทธิบัตรจาก FPO