เมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาในบ้านเรา เฟซบุ๊กได้เปิดศูนย์ข้อมูลในรัฐออริกอนให้ผู้สื่อข่าวได้เยี่ยมชมเป็นครั้งแรก ซึ่งนอกจากจะเต็มไปด้วยเซิร์ฟเวอร์แล้ว ศูนย์ข้อมูลแห่งนี้ยังเป็นแล็บ สำหรับทดสอบสมรรถภาพและการทำงานของแอพเฟซบุ๊กบนสมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆ กว่า 2,000 เครื่องอีกด้วย เพื่อผู้ใช้ทั่วโลก ไม่ว่าจะใช้สมาร์ทโฟนเก่าแค่ไหน ยังคงมีประสบการณ์การใช้งานแอพที่ดีอยู่ตลอด
Antoine Reversat หนึ่งในทีมวิศวกรที่ดูแลแล็บอธิบายให้ฟังว่า เนื่องจากเฟซบุ๊กและแอพในเครือ มีการอัพเดตและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา บริษัทจึงต้องทดสอบว่าโค้ดใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามานั้น ส่งผลต่อการทำงานของสมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆ มากน้อยแค่ไหน ทำเครื่องช้าลงหรือกินแบตเพิ่มมากขึ้นหรือไม่
โดยบริษัทได้พัฒนาระบบที่เรียกว่า CT-Scan สำหรับตรวจสอบการทำงานของสมาร์ทโฟนว่ามีการเปลี่ยนแปลงมากน้อยแค่ไหน เมื่อนำแอพเฟซบุ๊ก, Messenger และ Instagram เวอร์ชันใหม่มารัน รวมถึงใช้ Chef ซึ่งเป็นเครื่องมือจัดการซอฟต์แวร์ คอยตรวจสอบและแก้ไขความผิดปกติของเซิร์ฟเวอร์หรือแจ้งทีมวิศวกร กรณีที่ซอฟต์แวร์จัดการเองไม่ได้
ปัญหาคือการทดสอบจำเป็นต้องใช้สมาร์ทโฟนจำนวนมาก เพื่อให้ครอบคลุมรุ่นของสมาร์ทโฟนในตลาดและเกิดความแม่นยำของผลการทดสอบ ทีมงานจึงนำสมาร์ทโฟนจำนวนมากมาติดตั้งในเซิร์ฟเวอร์แร็ค โดยก่อนจะเป็นแร็คนั้น แรกเริ่มทีมงานใช้ที่เลื่อน (the sled) โลหะเป็นที่ติดตั้งสมาร์ทโฟน แต่มีปัญหาโลหะรบกวนสัญญาณ Wi-Fi ก่อนจะเปลี่ยนเป็นพลาสติก (the gondola) ซึ่งก็มีปัญหาสาย USB และสายพ่วงต่างๆ โยงใยกันเป็นพืด จึงพัฒนาต่อมาเป็นชั้นวางขนาดใหญ่ (the slatwall) ซึ่งกินพื้นที่มาก ก่อนสุดท้ายจะมาจบที่แร็คเซิร์ฟเวอร์ที่มี access point จ่าย Wi-Fi เป็นของตัวเอง
ในแต่ละแร็ค ทีมงานได้ติดตั้ง Mac Mini สำหรับ iPhone และอุปกรณ์ที่รัน Linux จากโครงการ Open Compute Project สำหรับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ เพื่อการรันอุปกรณ์ ติดตั้งและถอนการติดตั้งแอพ รวมถึงมีการติดตั้งกล้องเพื่อติดตามผลการทำงานของสมาร์ทโฟนด้วย
Antoine Reversat เผยว่าปัจจุบัน ในแต่ละแร็คมีสมาร์ทโฟนอยู่ที่ 32 เครื่อง ซึ่งทีมตั้งเป้าจะเพิ่มเป็น 64 เครื่อง รวมถึงปีหน้าอาจจะต้องดีไซน์พื้นที่จัดเก็บใหม่ เนื่องจากจะนำสมาร์ทโฟนที่มีขนาดใหญ่กว่านี้มาทดสอบ และตั้งเป้าลดขั้นตอนและกระบวนการในการทำให้สมาร์ทโฟนอยู่ในสถานะที่พร้อมสำหรับทดสอบด้วย
The Verge ระบุด้วยว่าเฟซบุ๊กมีแผนจะเปิดโอเพนซอร์ส ดีไซน์ของแร็คสำหรับทดสอบสมาร์ทโฟน รวมถึงซอฟต์แวร์ที่ใช้นี้ใน Open Compute Project
ที่มา - Facebook Code via The Verge