Bloomberg และ Recode รายงานโดยยืนยันแหล่งข่าวว่า Uber ได้ตัดสินใจขายกิจการในประเทศจีน (UberChina) ให้กับ Didi Chuxing บริการเรียกรถแท็กซี่ของจีน ซึ่งทั้งสองบริษัทถือเป็นคู่แข่งรายสำคัญในตลาดแอพเรียกรถที่นั่น
รายละเอียดของดีลเบื้องต้นนั้น ทั้งสองบริษัทจะรวมกิจการกัน ทำให้มีมูลค่าราว 35,000 ล้านดอลลาร์ โดย UberChina จะเป็นผู้ถือหุ้น 20% ใน Didi ทำให้กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด (โดยมีผู้ถือหุ้นอื่น อาทิ Apple, Alibaba, Tencent) ส่วน Baidu ก็จะถือหุ้นทางอ้อมผ่าน UberChina ด้วย ส่วน Didi จะลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ใน Uber
ประเทศจีนเพิ่งประกาศให้บริการเรียกรถยนต์ส่วนตัวเพื่อให้บริการขนส่ง เป็นบริการที่ถูกกฎหมายไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จึงคาดว่าการแข่งขันของบริการแอพเรียกรถน่าจะรุนแรงมากขึ้น ซึ่ง Travis Kalanick ซีอีโอ Uber เองก็เขียนบล็อกระบุว่า ทั้ง Uber และ Didi ต่างลงทุนเป็นเงินหลายพันล้านดอลลาร์ในจีน และยังไม่สามารถทำกำไรได้ ซึ่งทั้งสองบริษัทจำเป็นต้องทำกำไรให้ได้เพื่อความยั่งยืนทางธุรกิจในระยะยาว
ดีลนี้ถูกตั้งข้อสังเกตว่าคล้ายกับเมื่อครั้งยาฮูขายกิจการในจีนให้กับ Alibaba เมื่อปี 2005 โดยแลกกับการที่ยาฮูได้ลงทุนใน Alibaba ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปก็ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่คุ้มมาก
อัพเดต: Uber ออกแถลงการณ์ในเรื่องนี้ยืนยันข่าวแล้ว