รีวิว Moto G4 Plus ครั้งแรกของโมโตโรลาใต้ร่ม Lenovo

by advertorial
7 August 2016 - 18:02

ปีนี้นับเป็นครั้งแรกที่โมโตโรลาเปิดตัวสมาร์ทโฟนทั้ง 3 ซีรีส์ภายใต้การดูแลของ Lenovo อย่างเต็มตัว ซึ่งเราก็ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ทั้งเรือธงที่เปลี่ยนชื่อเป็น Moto Z และมาพร้อมลูกเล่นส่วนเสริมมากมาย และตัวบุกตลาดกลางอย่าง Moto G ที่ปีนี้แบ่งออกมาถึง 3 รุ่นย่อยคือ Moto G4 Plus, Moto G4 และ Moto G4 Pla

Moto G4 Plus ถึงแม้จะจัดอยู่ในสเปคกลางๆ แต่ต้องยอมรับว่าหน่วยก้านนั้นดีไม่แพ้สมาร์ทโฟนตัวท็อปๆ ของตลาดเลย

ตัวเครื่อง

Moto G4 Plus มาในขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว ตัวเครื่องเป็นโลหะ น้ำหนักเบา มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเพิ่มเข้ามาด้านล่าง ข้างๆ เซ็นเซอร์เป็นไมโครโฟน ขณะที่ปุ่มโฮมยังคงอยู่ที่แถบ navigation bar เช่นเดิม ส่วนลำโพงทางโมโตโรลาย้ายขึ้นไปไว้อยู่ด้านบน ตำแหน่งเดียวกับลำโพงโทรศัพท์

จุดเด่นหนึ่งของ Moto G ที่ทำไว้ตั้งแต่รุ่นแรก คือลำโพงสเตอริโอที่เสียงค่อนข้างดัง มีมิติ มีช่องเสียงกวาง เสียงไม่แตก ซึ่งโมโตโรลาก็ยังคงจุดเด่นนี้ไว้ใน Moto G4 Plus เช่นกัน ขณะที่ลำโพงโทรศัพท์ก็เสียงดังฟังชัดหากอยู่ในที่เงียบและเปิดเสียงดังสุด อาจจะดังเกินไปเล็กน้อย แต่ถ้าหากอยู่ในที่เสียงดัง ผุ้คนพลุกพล่านก็ยังได้ยินเสียงคู่สนทนาอย่างชัดเจน

ขณะที่เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือก็สามารถตรวจจับและปลดล็อกได้รวดเร็ว อาจจะมีงงๆ บ้างหากวางนิ้วผิดมุม

ฝาหลังก็มีความเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน หลังจากเดิมที่มีความโค้งมน คราวนี้ใน Moto G4 Plus ฝาหลังมีลักษณะแบนราบ ทำให้ตัวเครื่องดูบางลง โดยวัสดุของฝาหลังเป็นพลาสติกมีลาย ซึ่งช่วยให้ฝาหลังไม่เกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย หากไม่ใส่เคสก็หมดความกังวลกับปัญหาดังกล่าวไปเลย

เนื่องด้วยช่องใส่ซิมและ microSD ถูกย้ายเอาไปไว้ข้างในตัวเครื่อง โมโตโรลาเลยทำช่องเล็กๆ ข้างๆ พอร์ท micro USB สำหรับเปิดฝาหลังเอาไว้ให้ ซึ่งเปิดได้ไม่ยาก (เปลี่ยนแบตเตอรี่ไม่ได้)

Moto G4 Plus เป็นรุ่นที่รองรับไมโครซิม ซึ่งทางโมโตโรลาก็อำนวยความสะดวก ด้วยการใส่ถาดสำหรับผู้ทีใช้นาโนซิมมาให้ด้วย จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปขอเปลี่ยน SIM ตัวซิมทั้งสองซิมรองรับ 3G/4G ทั้งคู่

การใช้งาน

Moto G4 Plus มาพร้อมกับแอนดรอยด์ Marshmallow 6.0.1 ซึ่งเรียกได้ว่าแทบจะเป็นเพียวแอนดรอยด์ ไม่มีการปรุงแต่งหรือ bloatware ใดๆ จากโมโตโรลา มีเพียงแอพ Moto ที่ช่วยอำนวยความสะดวกเพิ่มเข้ามาให้เท่านั้น

ในส่วนของแอพ Moto ที่เป็นเหมือน signature ของโมโตโรลานั้น ใน Moto G4 Plus มีมาให้ 2 ฟังก์ชันหลักๆ คือ Moto Action หรือการขยับสมาร์ทโฟนด้วยท่าทางต่างๆ เพื่อเปิด/ปิดฟีเจอร์ อย่างการถือโทรศัพท์ในแนวตั้ง แล้วทำท่าสับ (Chop) เพื่อเปิด/ปิดไฟฉาย, คว่ำหน้าจอเพื่อเปิดโหมดห้ามรบกวน, ยกโทรศัพท์ขึ้นเมื่อมีสายเรียกเข้า เพื่อเปลี่ยนเป็นโหมดสั่น รวมถึงการบิดข้อมือ (twist) 2 ครั้งเพื่อเปิดกล้อง

อีกหนึ่งฟังก์ชันคือ Moto Display ซึ่งเป็นเหมือนฟีเจอร์หลักของโมโตโรลาก็ว่าได้ จะคล้ายๆ กับ Glance Screen ของทางฝั่ง Lumia เพียงแต่ว่าจะไม่ได้แสดงผลตลอดเวลาและที่สำคัญคือจะแสดงการแจ้งเตือนเอาไว้ด้วย (ถ้ามี) ซึ่งเราสามารถตั้งได้ว่าจะให้แอพใดแสดงผลการแจ้งเตือนผ่าน Moto Display บ้าง

Moto Display จะทำงานเมื่อเราหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เพราะฟีเจอร์นี้ใช้เซ็นเซอร์ accelerometer ทำงานร่วมกับ ambient light sensor และ proximity sensor โดยการแจ้งเตือนนั้น จะแสดงผลเป็นบอลลูนหากเราจะเข้าไปดูเนื้อหาที่แจ้งเตือน ให้ลากบอลลูนแอพนั้นๆ ขึ้น แต่หากต้องการลบการแจ้งเตือนทิ้ง ให้ลากออกไปด้านข้าง

ส่วนการทดสอบคะแนนจาก ANTUTU ได้ไป 46,326 คะแนน ซึ่งถึงแม้จะดูไม่เยอะ แต่อย่าลืมว่านี่คือสมาร์ทโฟนในตลาดกลาง และเอาเข้าจริงแล้ว ในการใช้งานทั่วไปต้องยอมรับว่าแทบจะไม่เห็นความแตกต่างของชิปเซ็ต Snapdragon 617 ใน Moto G4 Plus กับตัวท็อปตัวอื่นๆ มากนัก อย่างเกม Asphalt 8, GT Racing 2 และ Real Boxing ก็เล่นได้อย่างลื่นไหลไม่มีปัญหา

อีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญคือ Moto G4 Plus สามารถกันน้ำเข้าได้ระดับหนึ่ง ด้วยเทคโนโลยี nano coating ของโมโตโรลา ที่ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องพะวงหากต้องวิ่งผ่านฝนหรือทำหกใส่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Moto G4 Plus ไม่สามารถลงไปแช่น้ำได้

แบตเตอรี่

Moto G4 Plus ให้แบตเตอรี่มาที่ 3,000 mAh ซึ่งจากการใช้งานทั่วไปพบว่าสามารถอยู่ได้ทั้งวัน เช้ายันเย็น แต่หากใช้งานเยอะหน่อยก็อาจจะไม่เต็มวันนัก ที่สำคัญคือรองรับเทคโนโลยี TurboPower หรือระบบ Fast Charging ของโมโตโรลา โดยใช้เวลาเพียง 20-25 นาที ก็ได้แบตเตอรี่จาก 1% เพิ่มขึ้นมาราวๆ 50-60% แล้ว ช่วยให้การทำงานไหลลื่นไม่มีสะดุด โดยทาง Lenovo ประเทศไทยก็ให้อแดปเตอร์ที่รองรับ TurboPower มาให้ด้วย


เมื่อเสียบสายชาร์จที่รองรับ TurboPower ของโมโตโรลา จะมีการแสดงบสถานะบอกด้วย ขณะที่หากเป็นสายชาร์จทั่วไปจะไม่มี

กล้อง

กล้องหลังของ Moto G4 Plus มาให้ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมเลเซอร์ออโต้โฟกัสร่วมกับ PDAF (Phase Detection Autofocus) ที่ทำให้การโฟกัสของกล้องรวดเร็วมาก ขณะที่แฟลชเป็นแฟลชคู่

ตัวเลือกกล้องของ Moto G4 Plus มีทั้งโหมดออโต้ปกติ และโหมดโปร ที่สามารถปรับสปีตชัตเตอร์ รูรับแสง ISO และค่าชดเชยแสงเองได้

คุณภาพของกล้อง ต้องบอกว่าดีตามมาตรฐานสมาร์ทโฟนระดับนี้ สามารถโฟกัสได้ค่อนข้างเร็ว แม้ในที่แสงน้อย ส่วนวิดีโอรองรับที่ความละเสียดสูงสุด FHD 30fps และสโลว์โมชันที่ความละเอียด 540p
120fps

สรุป

Lenovo ร่วมกับ Truemove H นำ Moto G4 Plus รุ่นความจุ 32GB พร้อมแรม 3GB และยังใส่หน่วยความจำด้วยการ์ด micro SD ได้สูงสุด 128GB มาจำหน่ายในราคาเพียง 8,990 บาท ซึ่งด้วยราคาค่าตัว 1 หมื่นมีทอนเช่นนี้ นับคุ้มค่ามากกับประสบการณ์การใช้งานที่ดีไม่แพ้สมาร์ทโฟนราคาหลักหมื่น และที่สำคัญคือสามารถใช้งานได้นานตลอดวัน หรือหากแบตเตอรี่หมดก็ใช้เวลาชาร์จเพียงเล็กน้อยก็สามารถใช้งานต่อได้อีกหลายชั่ว ซึ่งเป็นความสามารถที่สมาร์ทโฟนราคาแพงกว่านี้อีกหลายรุ่นยังทำไม่ได้

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถหาซื้อ Moto G4 Plus ได้ที่ TrueShop, Jay Mart, TG Fone และร้านค้าผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศไทย

พิเศษ

สำหรับลูกค้า TrueMove H แบบรายเดือน รับส่วนลดค่าเครื่องทันที 3,000 บาท

สำหรับลูกค้าที่เปิดเบอร์ใหม่, ย้ายค่ายเบอร์เดิม, ลูกค้าปัจจุบันหรือจากเติมเงินเป็นรายเดือน และสมัครแพ็คเกจ 4G+ Super Smart 499 ขึ้นไป เป็นระยะเวลา 12 เดือน พร้อมชำระล่วงหน้า 1,500 บาท รับเน็ต 3G/4G ฟรี 40GB (เดือนละ 2GB นาน 20 เดือน) พร้อมใช้บริการฝากรูปและไฟล์ผ่าน TrueCloud ฟรี

ส่วนลูกค้าเติมเงิน เพียงเปิดเบอร์ใหม่กับซิม Smart Life 4G+ รับเน็ต 4G ฟรี 40GB เมื่อเติมเงินสะสมครบ 200 บาทต่อได้ (เดือนละ 2GB ใช้งานได้ 7 วัน นาน 20 เดือน) พร้อมบริการ True Cloud ฟรีไม่จำกัด นาน 12 เดือน

โปรโมชันนี้เริ่มตั้งแต่วันนี้ไปจนถึง 31 ตุลาคม 2559

Blognone Jobs Premium