Gautam Gupta ซีเอฟโอของ Uber ออกมาเผยข้อมูลสภาพการณ์ธุรกิจในไตรมาสที่สองของปี (Uber ยังไม่เข้าตลาดหุ้น ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ แต่บริษัทเลือกจะให้ข้อมูลกับนักลงทุน)
- ผลประกอบการไตรมาสที่สองขาดทุน 750 ล้านดอลลาร์ เพิ่มจากไตรมาสแรกของปีที่ขาดทุน 520 ล้านดอลลาร์ รวมกันแล้วครึ่งปีขาดทุนไป 1.27 พันล้านดอลลาร์ (ตลอดปี 2015 ขาดทุนไป 2 พันล้านดอลลาร์) โดยสาเหตุหลักของการขาดทุนมาจากการจ่ายเงินจูงใจให้คนขับ
- แต่ยอดการเรียกรถยนต์กลับเพิ่มขึ้นมาก มูลค่าของเงินค่าบริการรถยนต์ (เงินทั้งหมดที่ลูกค้าจ่ายผ่าน Uber) เพิ่มจาก 3.8 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก มาเป็น 5 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสล่าสุด
- รายได้ของ Uber (ค่าธรรมเนียมที่ Uber หักส่วนแบ่ง) เพิ่มจาก 960 ล้านดอลลาร์ มาเป็น 1.1 พันล้านดอลลาร์
- การที่ Uber ถอนตัวจากประเทศจีน น่าจะช่วยลดการขาดทุนในครึ่งปีหลังลงได้ เพราะ Uber ทุ่มเงินสู้กับ Didi Chuxing เยอะมาก
กรณีของ Uber ถือเป็นธุรกิจที่พิเศษ เพราะตั้งแต่เปิดบริษัทมาแล้ว 7 ปี ขาดทุนไปแล้ว 4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งไม่ค่อยมีบริษัทที่ขาดทุนระดับนี้แล้วยังเติบโตต่อไปได้เท่าไรนัก แต่บริษัทก็ยังมีเงินสดอยู่ในมือถึง 8 พันล้านดอลลาร์ ยังขาดทุนต่อได้อีกนาน ในขณะที่ Lyft คู่แข่งของ Uber ในสหรัฐก็มีข่าวลือว่าต้องมองหาโอกาสขายกิจการแล้ว
ที่มา - Bloomberg