พบกันอีกเช่นเดียวกับทุกปีกับนิทรรศการเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น Tokyo Game Show 2016 ปีนี้งานจัดขึ้นวันที่ 15-18 กันยายนที่ผ่านมา ณ Makuhari Messe โดยวันที่ 15-16 เป็น Business Day เปิดให้เฉพาะผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวงการเกมรวมถึงสื่อมวลชนเข้าร่วม ส่วนวันที่ 17-18 เป็น Public Day เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม
งานปีนี้มีบริษัทมาร่วมงาน 614 บริษัท โดยเป็นบริษัทจากต่างชาติถึง 354 บริษัท มีผู้ร่วมงานรวม 271,224 คน ตลอด 4 วัน ผมและทีมงานได้โอกาสเป็นตัวแทน Blognone ไปเที่ยวงานแบบอำมาตย์เก็บบรรยากาศมาฝากเช่นเคย ต้องขอขอบคุณทาง Blognone มา ณ ที่นี้ด้วย เพื่อความรวดเร็ว คราวนี้ผมจะขอแบ่งบทความเป็นหลายๆ ตอน ทยอยอัปเดตเมื่อเขียนเสร็จนะครับ
คำเตือน: บทความนี้ยาวและภาพประกอบเยอะมาก ท่านใดที่ขี้เกียจอ่านให้จบสามารถข้ามไปชม "สิ่งที่น่าสนใจ" ก่อนได้ครับ :p
ปีนี้ พวกผมไปร่วมงานในวันที่ 16 (Business Day วันที่สอง) กับวันที่ 18 (Public Day วันที่สองและวันสุดท้ายของงาน) บทความนี้จะเขียนรวมประสบการณ์จากทั้งสองวันนะครับ
งานเปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 10:00 น. ถึง 17:00 น. และอนุญาตให้สื่อเข้าได้ตั้งแต่เวลา 9:30 น. สำหรับ Public Day ครับ
พวกผมไปถึงหน้างานราว 9:00 น. ทั้งสองวันเพื่อเก็บบรรยากาศก่อนเริ่มงาน และรีบลงทะเบียนเพื่อต่อคิวเข้างานเป็นกลุ่มแรกๆ ครับ บรรยากาศหน้างานในปีนี้ค่อนข้างเอื่อยๆ ไม่มีเกมไหนโดดเด่นเป็นพิเศษ เว้นแต่ค่าย Bethesda ที่ซื้อบิลบอร์ดในจุดที่เด่นที่สุดเหมือนทุกๆ ปี (และส่วนจัดแสดงภายในงานก็เงียบเหงาเหมือนทุกปีเช่นกัน) ปีนี้เกมชูโรงเป็น The Elder Scrolls V: Skyrim Special Edition ส่วนของวัน Public Day สิ่งที่เด่นที่สุดเห็นจะเป็นฝูงชนจำนวนมหาศาลที่รอเข้างาน
เนื่องจากงานมีขนาดใหญ่มาก (ประมาณ 2-3 เท่าของพื้นที่ไบเทคบางนาทั้งหมด) มีการแบ่งโซนยิบย่อยมากมาย แต่พวกผมมีเวลาไม่มากนัก จึงขอพาชมเฉพาะจุดหลักๆ ที่ผมเห็นว่าน่าสนใจนะครับ
ทุกๆ ปี PlayStation จัดเป็นหนึ่งในบูทที่อลังการงานสร้างที่สุด ปีนี้ก็เช่นกัน นอกจากเกม Exclusive ของ PlayStation เองอย่าง Gravity Daze 2, Horizon Zero Dawn และ Gran Turismo Sport แล้วยังมีเกมจากแทบทุกค่ายที่ลง PlayStation 4 มาให้ลองเล่นรวมกันที่นี่เลย
เกมที่แอบมาแรงคราวนี้คือ Fate Extella ที่เป็นเกมแนว Musou (เดินหน้า ฆ่าไม่ยั้ง) จากซีรีส์ Fate ซึ่งดังมากๆ ในประเทศญี่ปุ่น และเป็นครั้งแรกที่มีตัวอย่างเกมนี้มาให้ลองเล่น
ส่วนของ PlayStation VR ยังมีตัวอย่างให้ลองเล่นมากมาย น่าเสียดายที่ทางบูทไม่อนุญาตให้เราเลือกเกมที่เราอยากได้เล่นครับ (ผมเลยอดเล่น Summer Lesson ได้ลองเป็น Resident Evil 7 แทน)
อีกเรื่องที่น่าเสียดายคือ PlayStation 4 Pro มีเพียงตัวเครื่องนำมาจัดแสดง แต่ไม่มีให้ทดลองเล่นจริงครับ
Bandai Namco ในปีนี้ นอกจากนำเกมของทางค่ายมาให้ลองเล่นแล้ว ไม่มีอะไรพิเศษเลยครับ ภายในบูทนอกจากเวทีกลางแล้ว มีเพียงโซนทดลองเล่นเกมรอบๆ (ซึ่งอยู่ไกลเกินกว่าจะถ่ายภาพมาได้ และเราไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปถ่ายภาพใกล้ๆ) และส่วนจัดแสดงสารพัด Gundam กับจุดรับติดตั้ง Mobile Games ของทางค่ายให้ผู้ร่วมงาน (ซึ่งสาวๆ น่ารักมาก อันนี้เรายกให้) ขออนุญาตผ่านไปแบบไวๆ เลย
ปีนี้ Square Enix ค่อนข้างคึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจากมีเกมดังมากมายกำลังจะออก ตั้งแต่ Final Fantasy XV, World of Final Fantasy (น่ารักเป็นบ้า!) ไปจนถึง Kingdom Hearts HD 2.8 (ภาค 2 ออกมาเมื่อ 10 กว่าปีก่อน แต่ปัจจุบันยังไปไม่ถึงเลข 3 สักที ฮา) และก็ต้องมี Final Fantasy XIV ให้ลองเล่นกันตามระเบียบ อีกทั้งยังมี PlayStation 4 Final Fantasy XV Luna Edition มาให้ยลโฉมกันครับ
ที่กำแพงบูทมีโซน Live Drawing ที่ทีมงานจะวาดตัวละครจากเกมต่างๆ ของค่ายลงบนกำแพงให้ดูกันสดๆ นอกจากนี้หลังบูทยังมี VR x MANGA Concept Showcase จากทีม R&D ของ Square Enix เอง เป็นการอ่านหนังสือการ์ตูนผ่าน VR Headset และจะมี Animation ซ้อนประกอบในการ์ตูนแต่ละช่อง เพื่อเพิ่มอรรถรสครับ
นอกจากนี้ยังมี VR Demo จากเกม Doom และ Fallout 4 มาแสดง น่าเสียดายที่พวกผมไม่ได้ไปลองเล่นเนื่องจากคิวยาวมหาศาล จึงบอกไม่ได้ว่าเป็นอย่างไร และทางบูทไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพตรงจุดนี้ครับ
เกมเด่นของ SEGA ในปีนี้เป็น Valkyria: Azure Revolution, Yakuza 6, และ Persona 5 ที่เพิ่งวางขายที่ญี่ปุ่นสดๆ ร้อนๆ แต่ละเกมก็จัดบูทโปรโมตกันอย่างอลังการ
ส่วนที่เด็ดที่สุดคือบูท Yakuza 6 ที่มีดาราหนังผู้ใหญ่มาให้ถ่ายภาพใกล้ๆ กันอย่างจุใจ (ไม่ต้องถามหารหัสครับ ผมก็ไม่ทราบ T.T) นอกจากนี้ยังมีเกม Titanfall 2 จาก EA ที่เป็น Partner ในญี่ปุ่นมาให้ลองเล่นกันด้านหลังบูทอีกด้วย
แม้จะเปลี่ยนแนวทางบริษัท เลิกเน้นเกมระดับ AAA แล้ว แต่ปีนี้ Konami ก็ยังมาแบบยิ่งใหญ่ครับ เกมเด่นๆ ที่นำมาแสดงปีนี้ได้แก่ Winning Eleven 2017, Yu-Gi-Oh! Duel Links ซึ่งเป็น Mobile Games และ Power Pro Festival 2016 ซึ่งเป็นซีรีส์เกมเบสบอลที่ค่อนข้างไปได้ดีในญี่ปุ่นครับ
ส่วนเกมที่เป็นที่จับตาที่สุดอย่าง Metal Gear Survive ผมเห็นแค่ป้ายขนาดไม่ใหญ่มากอยู่ภายในบูทเท่านั้นเอง นอกจากนี้ที่เด่นๆ ก็มีจุดถ่ายภาพ 360 องศาตรงด้านหน้าบูทครับ
ตอนแรกของบทความนี้ต้องขอตัดบทไว้แต่เพียงเท่านี้ก่อน ภาพงานทั้งหมดจากช่างภาพทุกคนในทีมสามารถดูได้ที่ Flickr ของผม (ขอบคุณทีมงานอีกครั้ง) โดยแยกเป็นภาพงานทั่วไป และภาพ Pretties กับ Cosplays ครับ แล้วพบกันใหม่ในบทความตอนถัดไปนะครับ