เมื่อสิ้นเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ผมมีโอกาสเดินทางไปร่วมงาน Microsoft Student Partners (MSP) Worldwide Summit 2016 ที่ซีแอทเทิล ซึ่งเป็นบ้านเกิดของไมโครซอฟท์
ระยะเวลาสามวันนี้ ผมมีโอกาสสัมผัสเทคโนโลยีต่างๆ ของไมโครซอฟท์มากมาย และคิดว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะแบ่งปันประสบการณ์ที่ผมไปพบเจอมาตลอดช่วงเวลาที่ผมอยู่ที่ซีแอทเทิลแก่เพื่อนๆ ชาว Blognone ครับ
จริงๆ แล้ว MSP Summit เพิ่งจะมีเมื่อปี 2014 นี้เอง ประเทศไทยก็ส่งตัวแทนไปทุกปี ปีนี้ผมได้รับเกียรติเป็นผู้แทนประเทศไทยเข้าร่วมงานนี้
งาน MSP Summit จะจัดควบคู่ไปกับ Imagine Cup เป็นประจำทุกปี (นับตั้งแต่ปี 2013 ที่จัดที่รัสเซีย ตั้งแต่นั้นมา Imagine Cup ก็กลับมาจัดที่ซีแอทเทิลจนถึงปัจจุบัน) สำหรับสถานที่ที่จัดการแข่งขันและกิจกรรมส่วนมากเป็นภายใน Microsoft Redmond Campus เสียส่วนมาก
อย่างที่หลายๆ คนรู้กันว่าปีนี้ประเทศไทยมีหนึ่งในผู้ผ่านเข้ารอบ Imagine Cup รอบ Semi-Final ในสาขา Game Design ด้วย ตอนลุ้นผลในห้องประชุมเลยไม่ค่อยเหงาเท่าไหร่ เพราะมีคนไทยแข่งด้วยครับ (ฮา)
สำนักงานใหญ่ของไมโครซอฟท์ประกอบไปด้วยหลายตึกรวมกัน ให้บรรยากาศเหมือนแคมปัสมหาวิทยาลัยในต่างประเทศมาก แต่ละตึกแบ่งเป็นส่วนงานของตัวเอง
วันแรกผมจะมาที่ตึก 92 ที่ทุกคนต้องมาลงรถที่นี่ ตึกนี้ไว้รองรับสำหรับคนที่มาเยี่ยมชมแคมปัส ข้างในประกอบด้วย Company Store, Visitor Center และห้องสำหรับจัดกิจกรรม ตอนที่ผมมาลงรถที่นี่ ผมอยู่ไม่นานมากนักเนื่องจากต้องเข้า Session ของผมที่ตึกอื่นทันที โดย Session ที่ว่าคือ Holographic Academy จัดที่ตึก 37 ซึ่งอยู่ห่างจากตึก 92 ออกไปอีกพอสมควร
อย่างที่เห็นครับ MSP แต่ละคนจะนั่งประจำโต๊ะของตัวเองพร้อมกับมีหน้าที่ดูแล HoloLens ของตัวเอง มีทีมพัฒนา HoloLens เข้ามาให้คำแนะนำตลอด Session โดยหลักๆ จะไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก เน้นโชว์ฟีเจอร์เสียมากกว่า เพราะเวลามีแค่สามชั่วโมงเท่านั้น
หลังจบ Session ของ HoloLens ก็ได้เวลาเข้า Session ของ MSP เอง ปีที่ผมไปโชคดีมากๆ เพราะ MSP ที่เข้าร่วมงานทุกคนได้รับ Surface Book กลับบ้านกันทุกคน (ผมเองตกใจมากตอนได้ยินว่าจะแจก เซอร์ไพรส์มากๆ)
หมดจากช่วงแจกของก็เข้าสู่ Session จริงๆ ซักที ช่วงเวลาส่วนมากของทริป ผมอยู่แต่ในห้องนี้เป็นหลัก แต่ละวัน Session จะแตกต่างกันออกไป เช่น Intro to Azure Machine Learning, IoT, Build Your Career Path คนที่มาให้ความรู้ก็เป็นพนักงานจากไมโครซอฟท์เองครับ
พอตกเย็น เป็นช่วงที่ให้ MSP มาสร้างหุ่นยนต์จาก Raspberry Pi กับ Windows IoT Core แข่งกันหาผู้ชนะ โดยมี Xbox One เป็นของรางวัลล่อใจ
หมดวันแรก เช้าวันต่อมา เป็นวันประกาศผลของ Imagine Cup ครับ แน่นอนว่าประเทศไทยได้แชมป์โลกสายเกมกลับมาดังข่าวที่หลายๆ ท่านได้เห็นก่อนหน้า
จบจาก Imagine Cup Award Ceremony แล้ว ตามตารางผมว่าง จึงไปเยี่ยมเยียน Company Store หน่อยนึง ตอนที่ผมไปผมได้คูปอง $120 มา คูปองอันนี้ไม่ใช่เงินสดนะครับ เป็นคูปองลิมิตที่อนุญาตให้ซื้อของจาก Employee Store ด้านในของ Company Store อีกที ต้องบอกว่าราคาถูกกว่ากันครึ่งๆ สำหรับอุปกรณ์ต่างๆ และถ้าเป็นซอฟต์แวร์ยิ่งถูกกว่ากันเข้าไปอีก ลองดูจากภาพแล้วตีเป็นเงินไทยดูครับ
ส่วน Company Store คิดว่าหลายๆ ท่านน่าจะเคยเห็นรีวิวผ่านตาไปบ้างแล้ว ผมขอข้ามนะครับ
แวะเยี่ยมชม Visitor Center หน่อยนึง
ตามจุดต่างๆ ภายในตึก มีตู้เย็นและเครื่องชงกาแฟของสตาร์บัคส์ตั้งอยู่ ความสนุกของช่วงที่อยู่ที่แคมปัสอย่างนึงที่ผมชอบคือการหยิบน้ำอัดลมจากตู้เย็นภายในแคมปัส เนื่องจากน้ำอัดลมที่อเมริกามีหลากหลายยี่ห้อมากๆ ครับ เลือกกันตาลายเลย
เข้าสู่วันที่สาม ผมมีโอกาสไปสอนเด็กๆ ที่โรงเรียน Garfield High School ซึ่งเป็นโรงเรียนดังโรงเรียนนึงในซีแอทเทิล สิ่งที่นำไปสอนคือการทำหุ่นยนต์จากเย็นเมื่อวันก่อนนี่เอง สนุกมากๆ ครับ ได้เห็นธรรมชาติของเด็กที่โน่นแล้วก็แปลกๆ ดี
โดยรวมแล้วจากที่ไปเยือนมา สำนักงานใหญ่ของไมโครซอฟท์ให้บรรยากาศที่อบอุ่น แต่ก็ยังแฝงไว้ด้วยความเป็นมืออาชีพแบบไมโครซอฟท์ จากที่ผมไปสัมผัสมา ไมโครซอฟท์เองค่อนข้างให้ความสำคัญกับเด็กๆ และการศึกษามากๆ อีกทั้งโครงการต่างๆ โดยเฉพาะโครงการสำหรับภาคการศึกษา ไมโครซอฟท์ผลักดันอย่างเต็มที่ตลอดมา เช่นโครงการ Microsoft Student Partners ที่ผมเข้าร่วมอยู่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างครับ
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณพี่ๆ ในไมโครซอฟท์ ประเทศไทยทุกคนที่ให้โอกาสผมไปเปิดโลกกว้างมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ขอบคุณครับ :)