แท็บเล็ตในปัจจุบันมีการใช้งานที่ค่อนข้างหลากหลาย ไล่ไปตั้งแต่ขนาดใหญ่สำหรับเขียนหรือพิมพ์งาน ไล่ลงมาจนขนาดพอดีมือ ที่เหมาะสำหรับอ่านหนังสือ หรือแม้แต่แท็บเล็ตที่โทรออกและรับสายได้ สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ที่ต้องการอุปกรณ์หน้าจอใหญ่ แต่ไม่อยากพกโทรศัพท์และแท็บเล็ตพร้อมกัน
Lenovo Tab3 8 (ในบทความนี้จะเรียกสั้นๆ ว่า Tab3) ก็เป็นหนึ่งในแท็บเล็ตที่ตอบโจทย์ข้างต้น ด้วยขนาดที่กระทัดรัดเพียง 8 นิ้ว ซึ่งเหมาะแก่การอ่านหนังสือ รวมไปถึงสามารถใส่ซิมและโทรเข้าโทรออกได้ด้วยและที่สำคัญคือราคา ที่กำแบงค์พันมา 7 ใบยังมีทอน
บอดี้ของ Tab3 เป็นพลาสติกทั้งเครื่อง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของแท็บเล็ตในกลุ่มราคานี้ ด้านบนเป็นลำโพง กล้องหน้าและ Proximity เซ็นเซอร์
ด้านล่างเป็นลำโพงเช่นกัน ร่วมกับไมโครโฟน
ด้านขวาเป็นปุ่มเพิ่มลดเสียง และปุ่มล็อคหน้าจอ
ด้านซ้ายมีเพียงช่องเสียบ MicroSD และซิมคู่
ด้านบนเป็นพอร์ต 3.5 มม. และ USB
ด้านล่างของตัวเครื่องไม่มีพอร์ตใดๆ ทั้งสิ้น ขณะที่ด้านหลังมีเพียงกล้องขนาด 5 ล้านพิกเซล ไม่มีแฟลช
สำหรับสเปค Tab3 มีหน้าจอ IPS ขนาด 8 นิ้วความละเอียด HD (1280x800) ชิปเซ็ตเป็นของ MediaTek แบบ 64-bit ไม่ระบุรุ่นควอดคอร์ ความถี่ 1.3 GHz แรม 2GB ความจุ 16GB รองรับ MicroSD สูงสุด 64GB กล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล Wi-Fi รองรับมาตรฐาน 802.11 b/g/n แบตเตอรี่ 4,290 mAh น้ำหนักประมาณ 329 กรัม
ส่วนซอฟต์แวร์ของ Tab3 เป็นแอนดรอยด์ 6.0 แทรกด้วยแอพและฟีเจอร์ของ Lenovo เล็กน้อย อย่างโหมด Parental Control ที่ตัวเครื่องจะเปลี่ยนไปใช้ Kid Launcher ซึ่งผู้ปกครองสามารถเลือกแอพให้ลูกเล่นได้ในสภาพแวดล้อมที่ถูกกำหนดไว้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไปเข้าแอพอื่นๆ ที่อาจสร้างความวุ่นวาย
ด้วยรูปทรงของ Tab3 ที่มาในขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้าและค่อนข้างเบา ทำให้ค่อนข้างสะดวกในการอ่านหนังสือหรือแม้แต่ยกขึ้นมาโทรศัพท์ด้วยมือข้างเดียว ขณะที่การใช้งานรวมๆ ก็ถือว่าลื่นไหล อาจไม่เร็วเท่าสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตตัวท็อป แต่ก็ไม่ได้ช้าหรืออืดขนาดทำให้หงุดหงิด
ขณะที่หน้าจอของ Tab3 ก็มาพร้อมโหมด Adaptive Display ที่จะปรับเปลี่ยนแสงและสีของหน้าจอ ไปตามการใช้งานซึ่งมี 4 รูปแบบคือ Media หรือโหมดชมภาพยนตร์, Standard โหมดมาตรฐาน, Reading โหมดอ่านหนังสือที่จะมีฟิลเตอร์ออกสีเหลืองนวลๆ มาครอบและโหมด Child สำหรับเด็ก ที่จะมีโทนสีคล้ายกับโหมดอ่านหนังสือ แต่จะมืดกว่าเล็กน้อย เพื่อความสบายตาของเด็กๆ
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจใน Tab3 คือ gesture หรือการสั่งคำสั่งต่างๆ บนเครื่องด้วยการใช้นิ้ววาดเป็นรูปตัวอักษรตามที่เราตั้งไว้ อาทิ ตัว C เป็นการเปิดกล้อง แต่คำสั่งที่น่าจะได้ใช้งานมากที่สุดคือการล็อคหน้าจอ ด้วยการเคาะหน้าจอ 2 ครั้งติด รวมถึงเปิดหน้าจอจากการ sleep ด้วยการเคาะ 2 ครั้งเช่นกัน
ส่วนลำโพงของ Tab3 เป็นสเตอริโอคู่ด้านหน้า พร้อมเทคโนโลยี Dolby Atmos อยู่บนบริเวณด้านบนและด้านล่างของตัวเครื่อง เวลาชมภาพยนตร์หรือฟังเพลง จะค่อนข้างได้อรรถรสเพราะเสียงดัง ฟังชัดและเหมือนมาจากรอบด้าน
ขณะที่แบตเตอรี่ที่ให้มาถึง 4,290 mAh สามารถใช้งานได้ 2 วันเป็นอย่างน้อยหากเป็นการใช้งานทั่วไปอย่าง โทรศัพท์ เปิดเว็บ เฟสบุ๊กหรือคุยแช็ท แต่หากเอามาเปิดภาพยนตร์ดูด้วย จำนวนชั่วโมงก็ลดหลั่นลงไปตามการใช้งาน แต่ก็ถือว่านานนระดับที่น่าพอใจ
กล้องหลังของ Tab3 มีความะละเอียดเพียง 5 พิกเซล สามารถใช้งานทั่วๆ ไปได้อยู่ในระดับที่รับได้ ไม่แย่แต่ก็ไม่ได้ดีเลิศ มีโหมดหลักๆ คือ HDR, Beauty Mode, พาโนรามา และโหมดถ่ายทิวทัศน์ในสถานการณ์ต่างๆ อย่างกีฬา ปาร์ตี้ ดอกไม้ไฟ ฯลฯ รวมถึงสามารถปรับแสงชดเชย และ White Balance ได้เอง
หากดูที่ราคาวางจำหน่ายแล้วถือว่าไม่น่าเกลียดเลย สำหรับรูปลักษณ์และฟีเจอร์ต่างๆ ที่ใช้งานได้จริง และไม่มีซอฟต์แวร์พรีโหลดรกเครื่อง เหมาะทั้งไม่ว่าจะให้เด็กๆ เล่น จะใช้งานทั่วไป จะอ่านหนังสือ หรือดูหนังฟังเพลง
Lenovo Tab3 8 มีให้เลือก 2 สีคือสีขาวและสีดำ สนนราคาค่าตัวอยู่ที่ 5,990 บาท