อุปกรณ์ไอทีที่เปิดตัวในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้รับความสนใจอย่างมากคือ Surface Studio พีซีตั้งโต๊ะแนวใหม่จากไมโครซอฟท์ และยังถือเป็นพีซีตัวแรกในประวัติศาสตร์ของไมโครซอฟท์อีกด้วย
ผมมีโอกาสผ่านไปที่ร้าน Microsoft Store ในสหรัฐอเมริกาพอดี เลยมีโอกาสได้ลองจับเครื่อง Surface Studio ของจริงเป็นระยะเวลาสั้นๆ ครับ
ถ้าสังเกตดีๆ สื่อโฆษณาของไมโครซอฟท์ทุกแขนงจะไม่ใช้คำเรียก Surface Studio ว่าเป็น "ออลอินวัน" แต่จะใช้คำว่า "studio" แทน เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นอุปกรณ์ชนิดใหม่เลย ไม่ได้เป็นพีซีออลอินวันทั่วไป
เนื่องจากเป็นการลองใช้งานระยะเวลาสั้นๆ เลยได้ใช้เฉพาะบางส่วนดังนี้
จุดเด่นของ Surface Studio คือหน้าจอ 28" ความละเอียดสูง สีสันสวยงาม ซึ่งดูด้วยตาเปล่าก็พบว่าสวยจริง เพียงแต่ไม่มีหน้าจอเกรดเดียวกันมาเทียบ เลยตอบยากว่าดีแค่ไหนครับ สิ่งที่เห็นชัดเจนคือหน้าจอมันบางมากจริงๆ และเป็นแผ่นเรียบเท่ากันหมดเลยเลย ไม่มีบางเฉพาะส่วนแต่ตูดงอนใดๆ ทั้งสิ้น
ตัวขาตั้งก็เหมือนในโฆษณาคือเป็นโครเมียมมันวาว ลองขยับดูพบว่าลื่นมากและเบากว่าที่คิดมาก ใช้แรงน้อยในการขยับ ส่วนการกดหน้าจอลงไป เราไม่สามารถทำจอให้แบนราบไปกับพื้นได้ (เอียงต่ำสุดคือ 20 องศา) สถานะมันจึงเป็นเหมือนโต๊ะเขียนแบบดิจิทัลกลายๆ นั่นเอง
อุปกรณ์ที่ทุกคนให้ความสนใจมากที่สุด หนีไม่พ้น Surface Dial วัตถุทรงกระบอกที่ใช้สั่งการ Windows 10 ได้ด้วย
วัตถุใต้ Surface Dial เป็นยาง ไม่ใช่แม่เหล็ก มันจะไม่ดูดติดกับหน้าจอของ Surface Studio มากนัก ใช้ครั้งแรกอาจจะงงๆ บ้าง (ผมทำหล่นมาแล้ว ยังดีหล่นบนโต๊ะ) การใช้งานเราต้องออกแรงกดลงไปเพียงเล็กน้อย ตัวเมนูวงกลมจึงโผล่ขึ้นมาบนหน้าจอ
แอพที่สนับสนุน Surface Dial จะมีปุ่มเฉพาะของแต่ละแอพโผล่ขึ้นมา เช่น แอพวาดรูปจะมีตัวเลือกสำหรับเลือกสีหรือขนาดของแปรง แต่ถ้าใช้กับแอพทั่วๆ ไป จะเป็นเมนูซูมและ scroll หน้าจอแทน อันนี้เวลาน้อยเลยไม่ได้ลองว่าแอพไหนมีปุ่มอะไรโผล่ขึ้นมาบ้าง
ส่วนตัวแล้วคิดว่า ไมโครซอฟท์เลือกทำ Surface Studio มาเป็นอุปกรณ์ showcase ให้ดูว่าสามารถผลักดันแพลตฟอร์ม Windows 10 ไปได้ไกลขนาดไหน (ตามวิสัยทัศน์ more personal computing) แน่นอนว่าด้วยราคาแพงขนาดนี้ มันจับกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ แต่ก็น่าจะกระตุ้นให้พาร์ทเนอร์รายอื่นๆ หันมาทำพีซีแบบเดียวกัน ในราคาต่ำลงมา ปีหน้าคงได้เห็นกัน
ในร้านยังมี Surface Book รุ่นใหม่ที่เปิดตัวพร้อมกันมาวางโชว์ด้วย ดูจากภายนอกไม่มีอะไรแตกต่าง เพราะเปลี่ยนเฉพาะซีพียูกับขยายอายุการใช้งานแบตเตอรี่เท่านั้น โดยไมโครซอฟท์เรียกมันว่า 'new Surface Book' ครับ