Adobe ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ใน Adobe Cloud Platform ในชื่อว่า Adobe Sensei โดยจะใช้ machine learning เข้ามาช่วยในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของ Adobe โดยจะนำความสามารถสองอย่าง รวมเข้ากับเทคโนโลยีล่าสุดใน AI ได้แก่
- ข้อมูลและคอนเทนต์จำนวนมาก: ใช้ข้อมูลแบบไม่ระบุตัวตนป้อนให้ AI เรียนรู้
- เข้าใจการทำงานมากขึ้น: ใช้ AI ในการเรียนรู้ลักษณะงานของผู้ใช้ เช่น เข้าใจรูปภาพและจัดหมวดหมู่ได้, ระบุฟอนต์ได้ ฯลฯ
สำหรับแพลตฟอร์มคลาวด์ต่าง ๆ ของ Adobe นั้นได้ใช้ Sensei เข้ามาช่วยในการจัดการในฟีเจอร์หลายอย่าง ตั้งแต่คอนเทนต์ไปจนถึงข้อมูล โดยใช้ความฉลาดของ AI ในการช่วยจัดการ เช่น
Creative Cloud
- Adobe Stock Visual Search: ค้นหาภาพที่ลักษณะคล้ายกันโดยลากภาพมาวางบนเบราว์เซอร์
- Face-Aware Liquify: ปรับหน้าตาผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นตา, ปาก, จมูก, คาง และอื่น ๆ ได้โดยไม่มีการทำลายรูปภาพ
- Auto Lip Sync: แปลงประโยคให้เป็นคำพูดโดยขยับปากการ์ตูนในเรียลไทม์
Adobe Marketing Cloud
- Intelligent Alerts: แสดงข้อความอัตโนมัติเมื่อเกิดอะไรขึ้น เช่น ถ้าเกิดอะไรบางอย่างที่ทำให้กราฟ spike แบบผิดปกติ
- Automated Insights for Digital Advertsing: แสดงข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์อัตโนมัติถึงประสิทธิภาพการทำโฆษณาว่าควรจะลงทุนทางไหน
- New Lookalike Modeling Capabilities: ให้แบรนด์สำรวจและวางกลุ่มเป้าหมายที่แชร์ความสนใจและคุณสมบัติร่วมกัน
- One-click Personalization: ระบุลักษณะคอนเทนต์ที่ให้ประสิทธิภาพดีที่สุด เช่น การจัดวางเลย์เอาท์ที่แตกต่าง, การใช้คำและภาพ ฯลฯ
Adobe Document Cloud
- Natural Language Processing: เข้าใจเนื้อหาของข้อความ และให้การวิเคราะห์อารมณ์ของเอกสาร
- Semantic Structure Analysis: วิเคราะห์เอกสารเพื่อระบุคุณลักษณะต่าง ๆ เช่น ย่อหน้า, ตาราง และหัวข้อ
- Document Similarity: ระบุเอกสารที่เหมือนกันสำหรับการค้นหาและไฮไลต์ในส่วนที่ต่าง
- Document Summarization: ตัดทอนเอกสารโดยระบุจำนวนประโยคที่ใช้แทนเป็นจำนวนน้อย ๆ
- Optical Character Recognition: แปลงเอกสารที่สแกนมาเป็นโครงสร้างและข้อความ
- Document Flow Extraction: แตกลำดับการอ่านจากโครงสร้างเอกสาร มีการ reflow และมีตัวเลือกช่วยเหลือให้
นอกจากนี้ Adobe จะคอยพัฒนา Adobe Sensei ให้ใช้งานกับพาร์ทเนอร์ได้ด้วย นักพัฒนาสามารถเข้าไปที่ adobe.io เพื่อติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ Adobe Sensei ได้ รวมถึงสามารถติดตามบัญชีทวิตเตอร์ @AdobeSensei เพื่อรับการอัพเดตได้ด้วยเช่นกัน
ที่มา - Adobe