วันนี้ มีฝรั่งกลุ่มหนึ่งมาเยี่ยมโดยมาจากบริษัท HP ที่เมือง Huston Texas มาจากทางด้าน marketing เขามาเพื่อมาสัมภาษณ์พวกเราว่าผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ในปีหน้าควรจะเป็นอย่างไร ทีมนี้มากันสามคน เวลานำเสนอคนที่เด็กหน่อยก็ update road map ของเขาให้ฟัง ส่วนตัวหัวหน้าคอยจด เขามาพร้อมกับรายการยาวเหยียดของคำถาม เช่น เรามองแนวโน้มอะไรเป็นเรื่องใหญ่ พวกนี้เขาไม่ได้มาขายของ แต่มาเก็บข้อมูลจาก reference customer เพื่อทำผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ มาให้เราใช้ คำถามบางเรื่องเป็นเรื่องเทคนิคสูงมาก เช่น ตอนนี้เราบริหารระบบเซิร์ฟเวอร์ แคร์เรื่อง IPMI หรือไม่ การใช้งาน workload ของกลุ่มผู้ใช้เรามีกี่กลุ่มและควรปรับปรุงผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ของเขาอย่างไรถึงจะดี
ระหว่างการสนทนาคำบางคำถูกอ้างอิงตลอดเวลาครับ คำเหล่านี้คือ
การประหยัดพลังงาน เวอร์ชวลไลเซชั่น และ มัลติคอร์
ดูเหมือนสามคำนี้กำลังฮอตและเป็น Magic word อยู่ขณะนี้ครับ
ตอนนี้ค่าใช้จ่ายเรื่องพลังงานกลายเป็นสัดส่วนสูงมากของ total cost of ownership ในสามปีแรก บางทีซื้อระบบราคาถูกอาจจะแพงกว่าระบบบที่ราคาเริ่มต้นสูงกว่าก็ได้ ถ้าไม่ระวังเรื่องการใช้พลังงาน
ส่วนการทำ เวอร์ชวลไลเซชั่น จะช่วยให้เราวางโครงสร้างพื้นฐานที่ยืดหยุ่นได้ ในส่วนงานของเรา มองเทคโนโลยีนี้ในการสร้างระบบที่แยกการใช้ของผู้ใช้ออกอย่างขัดเจนเพื่อพิทักษ์เรื่อง ความปลอดภัยของข้อมูลครับ
มัลติคอร์กำลังจะเข้ามาเร่งพลังระบบไอที บ้านเรายังขาดความเข้าใจอยู่มากว่าต้องเขียนโปรแกรมแบบมัลติเทรดด้วยเพื่อรีดเร้นพลังของมัลติคอร์ออกมา เรื่องนี้สำคัญมากๆ กรณีที่เราทำงานกับระบบที่ต้องการรับ load สูงมากๆ
สุดท้ายทีมที่มาก็ไปเยี่ยมชมเซิร์ฟเวอร์ที่เรามีอยู่ราว 200 เครื่อง หลังจากได้แลกความคิดกันมากมาย สุดท้ายเขาก็ถามผมว่าอยากได้อะไรในผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ บ้าง ผมก็แซวว่าต้องขอคิดดีหน่อย นานๆ จะได้ออกความเห็นที่จะกลายเป็นของขายทั่วโลกสักครั้ง หลังจากอึ้งไปสักพักผมเลยผมเสนอไปว่า การออกแบบในอนาคตควรคำนึงเรื่อง Serviceability ในระบบให้มาก เนื่องจากค่าแรงคนด้านงานบริหารระบบจะแพงมากขึ้นทุกที ดังนั้นการถอดประกอบระบบเซิฟเวอร์รุ่นใหม่ ควรเป็น Modular สูงมากๆ เพื่อลดเวลาการซ่อมบำรุงซึ่งจะกลายเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมากในอนาคตสำหรับการดูแลศูนย์ข้อมูล
เขาเองบอกว่าตอนนี้คนสนใจทำ Cloud Computing มากขึ้นทุกที โดยเอาไปให้บริการ Web 2.0 ขนาดใหญ่มากๆ ผมเองเห็นว่าแนวโน้มของโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีกำลังก้าวไปสู่การทำระบบ Cloud Computing โดยใช้เบลดเซิร์ฟเวอร์จำนวนมาก รวมกับการใช้เทคโนโลยีมิดเดิ้ลแวร์มาทำให้รองรับงานประยุกต์ขนาดใหญ่ได้ แล้วใช้เทคนิคของ web 2.0 กับสถาปัตยกรรมแบบ SaaS (Software as a Service) หรือ Software + Services ครับ สิ่งที่ยังขาดคือ มาตรฐาน ทั้งในแง่การพัฒนาโปรแกรมและการสร้างโครงสร้างพื้นฐานระบบครับ คงต้องตามดูกันอย่างใกล้ชิดต่อไปครับ