LINE จัดงาน Thailand Developers 2016 แนะนำ API ให้นักพัฒนาแอพไทยเข้าถึงได้

by mk
27 November 2016 - 02:51

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา LINE ประเทศไทย จัดงานประชุมสำหรับนักพัฒนา LINE Thailand Developers 2016 (ถือเป็นงานสำหรับนักพัฒนาครั้งแรกของ LINE Thailand ด้วย) ที่อาคาร KBTG เมืองทองธานี

เนื้อหาในงานเป็นการสรุปเรื่องการเปิดแพลตฟอร์มของ LINE ที่หลายคนรอกันมานาน และ LINE บริษัทแม่ประกาศเรื่องนี้ในงานสัมมนา LINE Developers Conference ที่โตเกียวเมื่อเดือนกันยายน (Blognone ลงข่าวไปบ้างแล้ว)

คุณอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ LINE Thailand ขึ้นเวทีเปิดงาน ย้ำวิสัยทัศน์ของ LINE ว่า "Beyond Chat" คือเป็นมากกว่าแอพแชท ผ่านการเชื่อมต่อธุรกิจและแบรนด์ต่างๆ นั่นเอง

ตัวอย่างบริการ Beyond Chat ของ LINE ที่เปิดตัวไปแล้วคือ LINE Man บริการสั่งอาหารและเมสเซนเจอร์ และในสัปดาห์หน้าจะมีบริการใหม่ LINE Finance เปิดตัวตามมาด้วย

ส่วนบริการใหม่สำหรับนักพัฒนา มีด้วยกัน 4 ตัว ได้แก่

  • LINE Notify
  • LINE Group Call
  • LINE Login
  • LINE Beacon

LINE Notify ส่งข้อความเตือนจากบริการภายนอกเข้ามายัง LINE

LINE Notify คือบริการข้อความแจ้งเตือนตามชื่อ สามารถส่งข้อความจากบริการหรือแอพภายนอกให้เข้ามาเตือนใน LINE (ใครที่ใช้ Slack น่าจะพอเข้าใจ เป็นฟีเจอร์แบบเดียวกัน)

ช่วงเปิดตัว LINE เอาใจนักพัฒนาเป็นหลัก โดยเชื่อมต่อบริการที่นักพัฒนาใช้กันเยอะๆ อย่าง GitHub, IFTTT, Mackerel ให้นักพัฒนาใช้กันก่อนเป็นกลุ่มแรก

แต่ในอนาคต LINE Notify ยังพลิกแพลงได้อีกมาก เพราะเปรียบเสมือนการเปิดให้บ็อตภายนอกคุยกับผู้ใช้ เช่น แจ้งเตือนพยากรณ์อากาศ ปฏิทินนัดหมาย ฯลฯ

ตอนนี้ LINE Notify เปิดให้ลองเล่นแล้วที่ notify-bot.line.me

LINE Group Call คุยเป็นกลุ่มทั้งเสียงและวิดีโอ

แพลตฟอร์มการแชทของ LINE สามารถแบ่งได้ 3 หมวดใหญ่ๆ คือ

  • 1:1 คนกับคน คุยกันเองส่วนตัว
  • 1:Bot คนคุยกับบ็อต เชื่อมต่อกับบริการต่างๆ
  • 1:Group คุยกันเป็นกลุ่ม

ปัจจุบัน การคุยเป็นกลุ่มของ LINE ยังจำกัดรูปแบบการใช้งานอยู่ในกลุ่มเล็กๆ เช่น ครอบครัว เพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงานในทีมเดียวกัน เพื่อนร่วมชั้น

แต่ LINE Group ยังมีโอกาสต่อยอดได้อีกมาก ทั้งการใช้คุยงานของทั้งฝ่ายในบริษัท ทั้งองค์กร หรือคุยกันในกลุ่มความสนใจร่วมกัน (interest group) ที่มีสมาชิกจำนวนมาก ซึ่ง LINE ก็มีแผนจะขยายฟีเจอร์ให้รองรับ use case การใช้งานเหล่านี้

ฟีเจอร์ที่เปิดตัวไปแล้วคือ LINE Group Call หรือการโทรคุยด้วยเสียงในกลุ่ม รองรับคู่สนทนาสูงสุด 200 คนพร้อมกัน

LINE ต้องออกแบบสถาปัตยกรรมเซิร์ฟเวอร์เบื้องหลังให้ดี เพื่อให้รองรับผู้ใช้จำนวนมากได้

ฟีเจอร์ถัดไปที่จะเปิดตัวในเร็วๆ นี้คือ Video Group Call ประชุมวิดิโอแบบเห็นหน้ากัน รองรับการคุยพร้อมกัน 200 คนเช่นกัน

และเนื่องจากเป็นการคุยวิดีโอ LINE จึงต้องออกแบบ UI ของหน้าจอให้เหมาะสม เพราะไม่จำเป็นต้องเห็นหน้ากันทุกคนเสมอไป รูปแบบหน้าจอก็แบ่งได้หลายแบบขึ้นกับความต้องการในการใช้งาน

LINE Login

LINE Login เป็นหนึ่งในบริการภายใต้ LINE Platform ที่เปิดตัวมาได้สักพักแล้ว โดยจะเป็น "หน้าด่าน" ในการเข้าถึงบริการอื่นๆ ของ LINE เช่น เกม, บริการจ่ายเงิน, คอมเมิร์ซ

นักพัฒนาสามารถเชื่อมต่อกับ LINE Login เพื่อใช้ระบบบัญชีของ LINE เป็นตัวตนของผู้ใช้ในบริการของตัวเองได้ ลักษณะเดียวกับ Facebook Connect หรือ Google Account

LINE Login สามารถใช้ได้กับทั้งเว็บและแอพ (Android/iOS) และมีฟีเจอร์ล็อกอินอัตโนมัติ ถ้าหากล็อกอินอยู่บนแอพ LINE อยู่แล้ว

มาตรฐานการเชื่อมต่อเพื่อยืนยันตัวตน ก็ใช้ OAuth 2.0 ตามท้องตลาด

บริการเว็บแอพภายนอก สามารถเชื่อมต่อกับผู้ใช้ LINE ได้ โดย LINE เรียกเว็บแอพเหล่านี้ว่า Official Web Application ซึ่งจะทำงานผ่านเบราว์เซอร์ภายในตัว LINE เลย ไม่ต้องสลับแอพให้ยุ่งยาก

LINE ยังมีระบบเก็บข้อมูลของผู้ใช้เรียกว่า Profile+ ซึ่งผู้ใช้จะเป็นคนอนุญาตให้แอพภายนอกเข้าถึงข้อมูลอะไรได้บ้าง

LINE Login ยังพัฒนาต่อได้อีกมาก ตามแผนที่จะทำคือล็อกอินด้วยเบอร์โทรศัพท์ และเพิ่ม API เพื่อเข้าถึงเพื่อน/โพสต์ รวมถึงต่อเชื่อมกับ LINE@ และ LINE Pay

LINE Beacon

LINE Beacon คือ API สำหรับเชื่อมต่อกับ Beacon หรือตัวระบุพิกัดที่ส่งสัญญาณผ่าน Bluetooth เพื่อสื่อสารกับผู้ใช้ผ่าน LINE

รูปแบบการใช้งานเพียงแค่ผู้ใช้เปิด Bluetooth บนมือถือ และเปิดแอพ LINE ขึ้นมาในพื้นที่ของ Beacon จะเห็นข้อความจาก Beacon โผล่ขึ้นมาบริเวณด้านล่างของหน้าจอทันที ซึ่งตรงนี้ ร้านค้าสามารถแจ้งเตือนส่วนลด โปรโมชั่น คูปอง ฯลฯ ไปยังผู้ใช้ LINE จำนวนมากในประเทศไทยได้เลย

Beacon จะทำหน้าที่เหมือนบ็อตของ LINE และนักพัฒนาสามารถเขียนบ็อตเข้ามาเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของ LINE ได้ตามแผนภาพ

ตอนนี้มีสตาร์ตอัพบางรายที่เป็นคู่ค้าของ LINE อย่าง Wongnai หรือ Stockradar ใช้งาน API เหล่านี้แล้ว สำหรับนักพัฒนารายอื่นๆ บริการทั้งหมดเปิดให้ลองใช้งานแล้ว แต่ยังจำกัดเป็นโหมด development ที่มีเพื่อนได้ไม่เกิน 50 คน ซึ่ง LINE เตรียมจะปลดล็อคข้อจำกัดนี้เมื่อเปิดบริการ API เวอร์ชันจริง

Blognone Jobs Premium