เบื้องหลังการกู้ชีพโปรเจคต์ Final Fantasy XV ของผู้กำกับ Hajime Tabata

by mk
28 November 2016 - 07:17

เนื่องในโอกาส Final Fantasy XV จะวางขายอย่างเป็นทางการวันพรุ่งนี้ (29 พ.ย.) เว็บไซต์ Eurogamer จึงเผยแพร่บทสัมภาษณ์ผู้กำกับ Hajime Tabata และทีมงานของ Square Enix ที่อยู่เบื้องหลังการกู้ชีพโปรเจคต์ที่บานปลายอย่าง Final Fantasy Versus XIII จนสามารถพัฒนาเป็น FFXV ที่เสร็จสมบูรณ์ได้

Square Enix เริ่มโครงการ Final Fantasy Versus XIII มาตั้งแต่ปี 2006 โดยมี Tetsuya Nomura จากทีม Kingdom Hearts เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ แต่โครงการกลับมีปัญหาความยืดเยื้อยาวนาน จนต้องเปลี่ยนตัวผู้ดูแลเป็น Tabata ในปี 2012 และใช้เวลาพัฒนาต่ออีก 4 ปีถึงเสร็จสมบูรณ์

Eurogamer มองย้อนประวัติศาสตร์ของ Square ตั้งแต่ความล้มเหลวของภาพยนตร์ Final Fantasy The Spirits Within ในปี 2001 (จนเป็นเหตุให้ต้องรวมกับ Enix) ส่งผลให้ทีมงาน Final Fantasy รุ่นแรกๆ อย่าง Hironobu Sakaguchi ผู้ให้กำเนิดซีรีส์ และผู้บริหารในรุ่นเดียวกัน ต้องทยอยลาออกจากบริษัทไป

ตำแหน่งที่ว่างเหล่านี้ถูกส่งมอบให้กับสายเลือดใหม่ของ Square Enix อย่าง Tetsuya Nomura (ในตอนนั้น) แต่เขาไม่สามารถคุมกระบวนการพัฒนาได้ และต้องถูกถอดออกจากโครงการ เปลี่ยนตัวมาเป็น Hajime Tabata แทน

Hajime Tabata ในวิดีโอขอโทษแฟนๆ เกมที่ต้องเลื่อนวันวางขาย FFXV รอบสุดท้าย

Tabata เคยเป็นพนักงานของบริษัท Tecmo มาก่อน และก่อนหน้านั้นเขาไม่เคยคุมโปรเจคต์ใหญ่ระดับนี้เลย สิ่งแรกที่เขาเจอคือทีมงานที่อ่อนล้าและหมดกำลังใจ สิ่งที่ Tabata ทำคือปรับปรุงโครงสร้างการทำงานของทีม FFXV ใหม่ และสร้างสปิริตในทีมขึ้นมาใหม่

Tabata เล่าว่าเขาเคยเป็นนักสกีที่เก่งที่สุดของโรงเรียน แต่กลับแพ้ให้กับคู่แข่งในการแข่งขันประจำเขต ซึ่งเขาเสียใจมาก แต่หลังจากนั้นไม่นาน คู่แข่งที่เอาชนะเขาก็ไปแพ้ในการแข่งขันระดับชาติ และแชมป์ระดับชาติก็แพ้ในโอลิมปิก ประสบการณ์ครั้งนั้นสอนเขาว่า "มีคนที่เก่งกว่าเราอยู่เสมอ" เราไม่มีทางเก่งที่สุดได้ตลอดเวลา วิธีเดียวที่จะเอาชนะได้คือสร้าง "ทีม" รวมคนเก่งขึ้นมาแทน

สิ่งแรกๆ ที่ Tabata ทำหลังเข้ารับตำแหน่งผู้กำกับ FFXV คือเขาจองรีสอร์ทในโตเกียว เพื่อให้เหล่าผู้นำทีม FFXV ไปรวมตัวกัน เมื่อถึงโรงแรม เขาเรียกทุกคนเข้าห้องประชุม เพื่อขอให้ทั้งกลุ่มหารือข้อตกลงร่วมกัน สร้างกฎประจำทีมที่ทุกคนจะยอมรับและปฏิบัติตาม ถ้าไม่สามารถตกลงกันได้ทุกคนจะไม่ออกจากห้องประชุมนั้น

กฎที่ตกลงกันได้มี 6 ข้อ ซึ่งคนในทีม FFXV จะมีแผ่นกระดาษเล็กๆ ติดตัวไว้ตลอดเวลา

  1. Don't put the brakes on others' work.
  2. Recognise others' core values; welcome all ideas.
  3. Make goals clear, and share information with transparency.
  4. Speak openly and honestly with everyone.
  5. Go beyond the scope of your duties.
  6. Cherish your health and your loved ones' happiness.

Tomohiro Hasegawa ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ (art director) ที่อยู่ในทีม FFXV มาตั้งแต่ต้น เล่าว่ากำลังใจของทีมดีขึ้นกว่าเดิมมาก เพราะตอนแรก ทีม FFXV แบกรับความคาดหวังเอาไว้มาก และอยู่ด้วยความรู้สึก "กลัวแพ้" อยู่ตลอดเวลา แต่หลัง Tabata เข้ามา บรรยากาศในทีมกลายเป็นการต่อสู้เพื่อเอาชนะของทีมเกรดรอง (underdog) แทน ทุกคนยอมรับว่าต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจตัวเกมใหม่หมด ทั้งเทคโนโลยี การออกแบบโลกในเกม การขยายเกมให้จับตลาดลูกค้ากว้างมากขึ้น

Tabata ยังทำลายโครงสร้างการบังคับบัญชาในทีม พนักงานทุกคนมีระดับชั้นเท่ากัน สามารถเถียงกันได้เต็มที่ว่าเกมควรเป็นอย่างไร ตำแหน่งงานสามารถสลับกันได้ตลอดเวลา (ซึ่งก็มีข้อเสียในด้านกลับว่าพนักงานอาวุโสบางคนรู้สึกว่าถูกลดชั้นลง) แต่ก็ช่วยให้บรรยากาศการทำงานคึกคักมากขึ้น

ความกดดันอีกประการที่ Tabata ต้องแบกรับคือผู้เล่นแต่ละคนมีความคาดหวังต่อแบรนด์ Final Fantasy แตกต่างกัน และผู้เล่นเก่าแก่จำนวนมากมีความรู้สึก "โหยหา" รูปแบบการเล่นของภาคก่อนๆ ที่ตัวเองเคยเล่น แต่กรณีของ FFXV ตัดสินใจว่าเกมจะแตกต่างไปจากภาคเก่าๆ อย่างสิ้นเชิง ตั้งใจว่าจะไม่ใช่การรวมระบบการเล่นของภาคเก่าๆ มาเลย

Tabata ยังเล่าว่าเขาได้รับความเห็นจากผู้กำกับเกมภาคแรกๆ อย่าง Hironobu Sakaguchi ผู้ให้กำเนิดซีรีส์นี้ ก็เคยนัดเจอเขาหลัง FFXV ออกเดโมในปี 2015 เพื่อให้ความเห็นว่าชอบ-ไม่ชอบอะไรในเกมภาคนี้ ส่วน Koichi Ishii หนึ่งในทีม Final Fantasy ภาคแรกก็เคยมาแสดงความยินดีกับ Tabata ที่สามารถสร้างเกม Final Fantasy ที่ให้ความรู้สึกสดใหม่ แต่ก็ยังรักษาแกนหลักของความเป็น Final Fantasy เอาไว้ได้เช่นเดิม

ที่มา - Eurogamer

Blognone Jobs Premium