มองย้อนปี 2016 และมองไปข้ามปี 2017 กับ Damien Wong รองประธานและผู้จัดการทั่วไปบริษัท Red Hat ประจำภูมิภาคอาเซียน

by sponsored
16 January 2017 - 02:24

ปี 2016 นับเป็นปีแห่งโอเพนซอร์ส จากที่เรามีคำถามว่าโอเพนซอร์สเหมาะกับการใช้ในองค์กรหรือไม่ ในปัจจุบันผู้ผลิตซอฟต์แวร์รายสำคัญในโลกทุกราย ล้วนแต่สร้างบริการหรือซัพพอร์ตซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส รวมถึงใช้ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สภายในองค์กรกันเป็นเรื่องปกติ

ในปีที่ผ่านมา Red Hat ยังคงเป็นผู้นำในการช่วยให้องค์กรต่างๆ ทั่วโลก ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีโอเพนซอร์สได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

Damien Wong รองประธานและผู้จัดการทั่วไปบริษัท Red Hat ประจำภูมิภาคอาเซียน

ถึงแม้ Red Hat สร้างชื่อมาจากลินุกซ์ แต่ปัจจุบัน Red Hat ไปไกลเกินกว่าคำว่าลินุกซ์เพียงอย่างเดียวมาก บริษัทลงทุนเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบสนองการใช้งานของลูกค้า เช่น การช่วยเหลือให้ลูกค้าสามารถจัดการบริการระบบไอทีทั้งหมดในองค์กร ไม่ว่าจะเป็น คอนเทนเทอร์หรือเซิร์ฟเวอร์ ด้วยการสร้าง Ansible Container, รองรับการทำ Virtualization ในองค์กรด้วยการพัฒนา Red Hat Virtualization อย่างต่อเนื่องจนเป็นเวอร์ชั่นที่ 4 ที่เพิ่งออกมาเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หรือการรองรับสตอเรจขนาดใหญ่ที่เราพัฒนา Ceph Storage 2 ขึ้นมา

แนวทางเช่นนี้มาจากการฟังเสียงลูกค้าของบริษัทเอง Red Hat พบว่าองค์กรต้องการลงทุนกับโครงสร้างพื้นฐานด้านคลาวด์มากเป็นอันดับหนึ่ง ที่ทิ้งห่างอันดับสองอย่างชัดเจน

โลกโอเพนซอร์สเปิดทางให้เราสร้างความร่วมมือกับผู้นำอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้อย่างกว้างขวาง เราทำงานร่วมกับไมโครซอฟท์ เพื่อซัพพอร์ต .NET Core บน RHEL และร่วมมือกับ Eclipse เพือสร้างเครื่องมือการพัฒนาแอปพลิเคชั่นให้เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น

สำหรับประเทศไทย ปี 2016 เป็นปีที่น่าตื่นเต้นสำหรับเรา Red Hat ขยายงานในภูมิภาคอาเซียนด้วยการเปิดสำนักงานในกรุงเทพเป็นครั้งแรก และถือเป็นสำนักงานแห่งที่สี่ในอาเซียน

เราหวังว่าการเปิดสำนักงานนี้จะเสริมความแข็งแกร่งของเราในภูมิภาคนี้ และช่วยให้บริษัทไทยสามารถสร้างนวัตกรรมด้วยโซลูชั่นโอเพนซอร์สได้มากขึ้น เราหวังว่าสำนักงานใหม่ในไทยจะสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการทำงานร่วมกันกับองค์กรต่างๆ ให้เห็นถึงความสำคัญของโอเพนซอร์สและการสร้างนวัตกรรมทั้งในไทยและในภูมิภาคอาเซียน เรายังคาดว่าการมีสำนักงานในไทยจะช่วยให้ทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์และลูกค้าของเราได้ดียิ่งขึ้น

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตด้านไอซีทีสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตาม (ข้อมูลจากรายงานของ IDC) และภูมิภาคอาเซียนก็มีอัตราการเติบโตในหลายอุตสาหกรรม ทั้ง การสื่อสาร, ประกันภัย, และธนาคาร อีกทั้งนโยบายด้านการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอลของประเทศไทยไทยจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมไอซีทีในประเทศได้เป็นอย่างดี

IDC คาดว่าภายในปลายปี 2017 บริษัทในกลุ่ม Thailand 100 (T100) จะมีการปฏิรูปดิจิตอลในบริษัทกว่าครึ่ง ทำให้ยุทธศาสตร์ด้านดิจิตอลกลายเป็นแกนกลางของยุทธศาสตร์องค์กร แนวโน้มเช่นนี้ทำให้จะมีการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ และการร่วมมือกับบริษัทอย่าง Red Hat ในการสร้างแนวทางพัฒนาระบบไอที ตั้งแต่การจัดซื้อ, การพัฒนา, และการสร้างระบบ

เรามองว่าปี 2017 จะเป็นปีที่ดี องค์กรจำนวนมากจะปรับเปลี่ยนเพื่อแข่งขันในโลกของเศรษฐกิจดิจิตอล ในกระแสการเปลี่ยนแปลงนี้ เทคโนโลยีฝั่งโอเพนซอร์ส ถือเป็นแนวทางที่ดีที่สุด จากปัจจัยทั้งด้านความยืดหยุ่นในการใช้งาน, การใช้แนวทางที่มีการใช้มาก่อนแล้ว, การสร้างนวัตกรรมอย่างรวดเร็วจากความร่วมมือระหว่างกัน, และความสามารถในการขยายระบบ

โอเพนซอร์สคือพื้นฐานของการก้าวเข้าเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน ผู้นำไอที, นักพัฒนา, และพันธมิตร ที่ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างอนาคต เราเชื่อว่า Red Hat จะเป็นผู้เปิดทางให้การพัฒนาระบบทำได้อย่างรวดเร็ว, ยืดหยุ่น และเต็มไปด้วยนวัตกรรม ในยุคของตอบสนองความต้องการผู้ใช้เช่นทุกวันนี้

ท่านสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิตอลได้ที่ http://red.ht/2iCQILR

Blognone Jobs Premium