หากยังพอจำกันได้ ในช่วงเดือนกรกฎาคมปีนี้แล้ว เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงในรัฐฟลอริด้ากับ Tesla Model S ที่เปิดโหมด Autopilot จนนำมาสู่การตั้งคำถามมากมายถึงความปลอดภัยและน่าเชื่อถือระบบ Autopilot ก่อนที่ หน่วยงานกำกับดูแลความปลอดภัยบนทางหลวงของสหรัฐฯ (National Highway Traffic Safety Administration - NHTSA) จะเข้ามาสอบสวนเรื่องนี้และเพิ่งเปิดเผยรายงานออกมา
รายงานของ NHTSA (อ่านได้ท้ายข่าว) ระบุว่า ถึงแม้ข้อมูลที่ได้จากตัวรถ Tesla Model S จะบ่งชี้ว่าระบบ Autopilot ถูกเปิดใช้งานขณะเกิดอุบัติเหตุ, ระบบเบรคฉุกเฉิน (Automatic Emergency Braking - AEB) ไม่ได้ทำงานเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและคนขับไม่ได้เข้าควบคุมตัวรถเพื่อเบรคหรือหักเลี้ยวเพื่อยับยั้งอุบัติเหตุก็ตาม แต่จากการสอบสวนระบบต่างๆ ของ Tesla ก็พบว่าระบบทุกอย่างทำงานเป็นปกติและอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของ Autopilot และ AEB เสียทีเดียว
NHTSA อธิบายว่าระบบ AEB ที่ถูกใช้งานในอุตสาหกรรมรถยนต์ปีที่แล้ว เป็นระบบที่ถูกออกแบบมาสำหรับป้องกันและหลีกเลี่ยงการชนท้าย (rear-end collision aviodance) ซึ่งไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับการป้องกันการชนทุกกรณี อย่างในกรณีนี้คือการชนด้านข้าง ขณะที่รถบรรทุกกำลังเลี้ยวขวางถนน
ขณะที่ระบบ Autopilot นับเป็นแค่ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่เท่านั้น (Advanced Driver Assistance System - ADAS) โดยคนขับยังคงต้องมีสมาธิอยู่กับท้องถนนตลอดเวลาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ซึ่งระบบของ Tesla เองก็ถูกออกแบบมาให้ตรวจจับการมีสมาธิอยู่บนท้องถนนของคนขับ NHTSA จึงสรุปว่าระบบต่างๆ บน Tesla Model S ทำงานเป็นปกติตามที่ถูกออกแบบมาและอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีสาเหตุมาจากความผิดพลาด (defect) ของระบบ
ที่มา - NHTSA via TechCrunch
NHTSA's full report on Tesla's 2016 fatal Autopilot crash by TechCrunch on Scribd