'บิ๊กบอส' วงการไอทีประสานเสียง คัดค้านนโยบายแบนผู้อพยพของทรัมป์

by sunnywalker
29 January 2017 - 08:55

เรียกแขกได้มากจริงๆ สำหรับนโยบายปิดกั้นผู้อพยพจากประเทศมุสลิม 7 ประเทศไม่ให้เข้าประเทศเป็นการชั่วคราว ผู้บริหารบริษัทไอทีเองก็มีปฏิกิริยาต่อต้านนโยบายดังกล่าว แม้ส่วนใหญ่เคยเข้าร่วมประชุมเป็นส่วนตัวกับทรัมป์มาแล้วเรื่องทิศทางเศรษฐกิจและบริหารประเทศ แต่ดูเหมือนนโยบายผู้อพยพจะล้ำเส้นจนต้องคนไอทีต้องออกมาแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วย

ไล่เรียงเหตุการณ์หลังจากเซ็นคำสั่งอนุมัติ ซีอีโอ Google เรียกตัวพนักงานที่เข้าข่ายกลับสหรัฐฯ Airbnb ประกาศบริการที่พักพิงฟรีให้ผู้อพยพที่ได้รับผลกระทบต่อมาผู้บริหารไอทีทยอยส่ง memo ให้พนักงาน สำนักข่าว Buzzfeed ไปรวบรวมมามีดังนี้

Tim Cook ซีอีโอ Apple

Tim Cook เขียนบันทึกถึงพนักงานว่า บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของผู้อพยพ Apple เองก็จะไม่สามารถมาอยู่ตรงนี้ได้ถ้าไม่มีบรรดาผู้อพยพมาทำงานให้ ผมได้ยินมาว่าพวกคุณรู้สึกเป็นกังวล และจะขอยืนยันว่า นี่ไม่ใช่นโยบายที่เราสนับสนุน

Satya Nadella ซีอีโอ Microsoft

Satya Nadella เขียนบันทึกลง LinkedIn ว่า ในฐานะที่เป็นทั้งซีอีโอและเป็นผู้อพยพด้วย จึงเห็นประโยชน์ของผู้อพยพที่มีต่อบริษัทและต่อสังคมโลก พวกเราจะยังคงให้การสนับสนุนผู้อพยพต่อไป

Mark Zuckerberg ซีอีโอ Facebook

Mark Zuckerberg โพสต์ Facebook ว่า เขารู้สึกเป็นกังวลกับนโยบายนี้ และยังบอกด้วยว่า พ่อแม่เขามาจากเยอรมัน ออสเตรีย โปแลนด์ ส่วนพ่อแม่ของภรรยา Priscilla ก็เป็นผู้ลี้ภัยจากจีนและเวียดนาม สหรัฐฯคือพื้นที่ของผู้อยพ และเราควรจะภาคภูมิใจ

Elon Musk ซีอีโอ Tesla

Elon Musk โพสต์ทวิตเตอร์ว่า นโยบายปิดกั้นผู้อพยพไม่ใช่ทางที่ดีที่สุดในการรับมือปัญหาในประเทศ บรรดาผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้คือผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ พวกเขาทำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่สมควรจะถูกขับไล่

Travis Kalanick ซีอีโอ Uber

Travis Kalanick เขียนบันทึกให้ลูกจ้าง และโพสต์บันทึกลง Facebook ด้วยว่า นโยบายนี้กระทบผู้บริสุทธิ์มากมาย อูเบอร์ที่มีคนขับเป็นผู้อพยพได้รับผลกระทบแน่นอน ตอนนี้ทางบริษัทกำลังพิจารณาค่าชดเชยให้คนขับช่วงสามเดือนถัดไป เพื่อลดแรงกดดันเรื่องค่าใช้จ่าย รายละเอียดเรื่องนี้จะบอกให้ชัดเจนอีกครั้งเร็วๆ นี้

Logan Green และ John Zimmer ผู้ร่วมก่อตั้ง Lyft

ทั้งสองส่งอีเมลถึงพนักงาน ยืนยันต่อต้านนโยบายทรัมป์เต็มที่ ทีมกฎหมายฝ่ายบุคคลของบริษัทกำลังพิจารณาผลกระทบทางกฎหมายต่อพนักงานที่เข้าข่าย

Reed Hastings ซีอีโอ Netflix

Reed Hastings โพสต์ Facebook ว่า นโยบายทรัมป์กระทบพนักงาน Netflix ทั่วโลก นโยบายนี้ทำให้สหรัฐฯมีความปลอดภัยน้อยลงแทนที่จะปลอดภัยมากขึ้น ถึงเวลาที่เราจะร่วมมือกันเพื่อปกป้องอเมริกาดินแดนแห่งเสรีภาพและโอกาสนี้ไว้

Jack Dorsey ซีอีโอ Square ที่ทำเรื่อง Payment และเป็น ซีอีโอ Twitter

Jack Dorsey โพสต์ทวิตเตอร์ว่า เป็นกังวลต่อนโยบายนี้ บรรดาผู้อพยพที่เป็นเจ้าของกิจการขนาดเล็กมีส่วนสำคัญในการสนับสนุน Square ผลกระทบด้านเศรษฐกิจคือของจริง พวกเรายังคงสนับสนุนผู้อพยพต่อไป นอกจากนี้แอคเคาท์ทวิตเตอร์ก็โพสต์ลงแพลตฟอร์มว่า ทวิตเตอร์เกิดขึ้นได้จากผู้อพยพหลากศาสนา พวกเราจะอยู่ข้างผู้อพยพเสมอ

Chad Dickerson ซีอีโอ Etsy

Chad Dickerson โพสต์ทวิตเตอร์ว่า เราเป็นประเทศผู้อพยพ ผมต่อต้านการแบ่งแยกเชื้อชาติ ศาสนา ของผู้คนในสหรัฐฯ

นอกจากนี้ยังมีปฏิกิริยาทางสัมคมของเหล่าคนไอทีอีกหลายราย รวมถึงนักลงทุนในซิลิคอนวัลเล่ย์ ที่ออกมาโพสต์ข้อความไม่เอาด้วยและไม่เห็นด้วย เมื่อคืนที่ผ่านมา เหล่าคนพัฒนาเกมก็เข้าร่วมขบวนประท้วงที่สนามบินด้วยเช่นกัน

ที่มา - Buzzfeed, Venture Beat

Blognone Jobs Premium