ยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับเสียงคัดค้านนโยบายปิดกั้นผู้อพยพไม่ให้เข้าสหรัฐอเมริกา ล่าสุดเป็นเสียงจากผู้จัดจำหน่ายเกมรายใหญ่อย่าง Valve ออกมาชี้ประเด็นถึงผลกระทบจากนโยบายนี้ โดยเน้นไปที่ 2 หัวข้อหลักอย่าง eSport และ การจ้างงาน
Gabe Newell ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ และ Erik Johnson ฝ่าย Business Development ของ Valve จัดวงเสวนากับนักข่าวที่สตูดิโอของ Valve ในวอชิงตัน ทั้งคู่เห็นตรงกันว่านโยบายดังกล่าวกระทบกับธุรกิจของตัวเองโดยตรง ในสองประเด็นดังนี้
eSport
นโยบายนี้จะทำให้การขอวีซ่าเพื่อเข้ามาแข่งขันในสหรัฐอเมริกาทำได้ยากขึ้น แต่เดิมนั้นก็เป็นปัญหาเรื้อรังมาโดยตลอดอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่ผู้เล่นหลายๆ คนยังเป็นผู้เยาว์ ยกตัวอย่างถึงปัญหารการขอวีซ่าของทีมจากฝั่งเอเชียอย่าง CIS-Game และ Arrow Gaming ในปี 2014 นอกจากนี้ Newell ยังพูดถึงปัญหาที่เกิดจากเจ้าหน้าที่รัฐไม่รู้จัก eSport ทำให้การขอวีซ่านั้นยากขึ้นไปอีก
อีกหนึ่งผลกระทบใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นคืองาน The International ทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์โลกของ Dota 2 โดย Johnson กล่าวว่า นโยบายนี้อาจทำให้ Valve ตัดสินใจจัดงานนี้นอกสหรัฐอเมริกา แม้ยังหวังจะได้จัดที่ Seattle เหมือนเดิม
การจ้างงาน
Newell ยืนยันว่ามีพนักงานบางส่วนไม่สามารถกลับไปเยี่ยมประเทศบ้านเกิดได้ เพราะหากเดินทางออกไปแล้ว ไม่มั่นใจว่าจะสามารถกลับเข้ามาได้อีกหรือไม่ ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่มันมีผลกระทบเกิดขึ้นแล้วกับพนักงานของ Valve ในตอนนี้เลย