ในยุคนี้ ปัญหาโลกร้อนเป็นปัญหาใหญ่ที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันรณรงค์ สำหรับวงการไอทีเองก็มีหลายบริษัทต่างพากันชูผลิตภัณฑ์รักษ์โลกสีเขียวและเรียกติดปากกันว่า Green IT * ไม่เว้นแม้แต่วงการซูเปอร์คอมพิวเตอร์ซึ่งแต่เดิมต่างเน้นพลังในการประมวลผลที่กินไฟอย่างไม่เกรงใจธรรมชาติ มีอยู่รุ่นหนึ่งกินไฟมากจนทำให้ไฟตกกันทั้งประเทศได้เลย และการใช้ไฟฟ้าอย่างมหาศาลนี้ย่อมหมายถึงการปล่อย CO2 ต้นตอแห่งปัญหาโลกร้อนตามมาด้วย แต่ข้อมูลล่าสุดจาก Green500 ได้ชี้ให้เห็นว่านักออกแบบและพัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์บางรายให้ความสำคัญกับพลังประมวลผลที่คำนึงควบคู่ไปพร้อมกับการประหยัดพลังงานไฟฟ้า
Green500 ได้แสดงข้อมูลการกินไฟของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีพลังในการประมวลผลสูงที่สุด 500 อันดับแรก จัดโดย TOP500 ซึ่งใช้หน่วย FLOPS เพื่อแสดงถึงพลังประมวลผลของคอมพิวเตอร์ ยิ่งมีค่ามากยิ่งหมายถึงประมวลผลได้เร็ว ส่วนทาง Green500 ใช้หน่วย FLOPS ต่อวัตต์ (FLOPS/W) เพื่อวัดพลังการประมวลผลต่อการกินไฟ 1 วัตต์ ค่านี้ยิ่งมากก็แปลว่าสมรรถนะในการประมวลผลคุ้มค่ากับการกินไฟ หรือใช้พลังงานไฟฟ้าแค่ 1 วัตต์ก็ยังสามารถประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว
มาดูซูเปอร์คอมพิวเตอร์ประหยัดไฟมากที่สุด 5 รายการแรก ** โดยเราจะเรียกชื่อตามชื่อหน่วยงาน
ข้อมูลที่น่าสนใจคือ 16 รายการแรกใน Green500 เป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์จาก IBM โดยอันดับ 1 ครองแชมป์ร่วมกันถึง 2 รายคือ IBM Germany กับ Fraunhofer ITWM ด้วยการใช้พลังงาน 488.14 MFLOPS/W ส่วนอันดับถัดมาเป็นของ Roadrunner ซึ่งครองแชมป์อันดับ 1 ใน TOP500 ด้วยความเร็วระดับ 1 PetaFLOPS ถึงแม้ Roadrunner จะกินไฟมากกว่า 2 ล้านวัตต์ แต่เมื่อเทียบกับสมรรถนะที่ได้มาก็สามารถประหยัดไฟไปถึง 437.43 MFLOPS/W มีข้อมูลที่น่าสนใจคือซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทั้ง 3 เครื่องนี้ใช้โปรเซสเซอร์ Cell ส่วน 50 รายการแรกของ Green500 เป็นเครื่องตระกูล IBM BlueGene ถึง 33 รายการ ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่า IBM พัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์ประหยัดไฟได้ตามที่ IBM เคยตั้งเป้าเอาไว้เมื่อ 10 ปีก่อน
อันดับสุดท้ายใน Green500 ตกเป็นของ Lawrence Livermore National Laboratory ด้วยสมรรถนะ 4.06 MFLOPS/W แต่ข้อมูลที่น่าสนใจคืออันดับที่ 499 เป็นของ Earth Simulator จาก NEC ตั้งอยู่ญี่ปุ่น ด้วยสมรรถนะ 5.6 MFLOPS/W หรือ 35.86 TFLOPS ปัจจุบันติดอันดับ 49 ใน TOP500 แต่เคยได้แชมป์อันดับ 1 ต่อกันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 ถึง 2547 โดยเป็นเครื่องที่กล่าวกันว่าเปิดเครื่องทีแล้วไฟตกทั้งประเทศ เรียกว่าปิดเปิดเมื่อไหร่ก็เป็นที่รู้กันของประชาชนน่ะครับ
ปิดท้าย ... ประหยัดไฟไม่ใช่แค่ช่วยชาติเท่านั้น แต่เป็นการช่วยโลกทั้งใบเลยครับ แถมยังประหยัดค่าไฟได้อีกด้วย :)
* บริษัทการ์ทเนอร์ยังจัดให้ Green IT เป็นหนึ่งใน Hype Cycle ประจำปี 2008 ** ข้อมูลการจัดอันดับในข่าว อิงตามข้อมูลเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2551 ซึ่งเป็นข้อมูลล่าสุดของเวลานี้
ที่มา - The Register สำหรับท่านที่สนใจสามารถดูการจัดอันดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ประหยัดไฟ 500 อันดับแรกได้ที่ Green500 และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีพลังการประมวลผลสูงที่สุด 500 อันดับแรกได้ที่ TOP500