Game Mode ของ Windows 10 ได้ทรัพยากรซีพียู-จีพียูเยอะกว่าปกติ

ไมโครซอฟท์เผยข้อมูลทางเทคนิคของ Game Mode ใน Windows 10 Creators Update เพิ่มเติมในงาน Game Developers Conference เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ระบบปฏิบัติการ Windows ปัจจุบันมองเกมเป็นโพรเซสหนึ่งเหมือนกับโพรเซสทั่วไป แต่พอเปิดใช้ Game Mode แล้วระบบปฏิบัติการจะจัดสรรทรัพยากรให้กับเกมนั้นโดยเฉพาะ

• ซีพียู จำนวนคอร์ส่วนใหญ่ของซีพียูจะถูกนำมาใช้กับเกมนั้น แต่ใช้เท่าไรขึ้นกับงานของโพรเซสอื่นในตอนนั้นด้วย (เช่น ได้ 6 คอร์จากทั้งหมด 8 คอร์) ในกรณีที่ซีพียูมีหลายเธร็ด ถ้าคอร์ใดประมวลผลเกมอยู่ เธร็ดที่ว่างอยู่จะไม่ถูกใช้กับงานอื่นเพื่อป้องกันปัญหาเธร็ดแย่งงานกัน (thread contention)
• จีพียู ระบบจะแบ่งทรัพยากรจีพียูให้เกมเป็นหลัก ทั้งในแง่ของรอบการประมวลผลจีพียูและหน่วยความจำของจีพียู

ไมโครซอฟท์จะออกฟังก์ชันให้นักพัฒนาเกมเช็คว่าผู้ใช้เปิด Game Mode หรือไม่ เพื่อให้พิจารณาว่าควรเปิด Game Mode เป็นค่าดีฟอลต์หรือไม่

รายละเอียดอีกอย่างที่ไมโครซอฟท์เปิดเผยในงาน GDC คือการนำเกมที่สร้างด้วย UWP ไปรันบน Xbox One ยังมีข้อจำกัดอยู่มาก เพราะไมโครซอฟท์ยังจำกัดทรัพยากรที่เกมแบบ UWP มีสิทธิเข้าถึงได้ ได้แก่ซีพียู 4 คอร์ (จากทั้งหมด 8 คอร์), จีพียู 50%, แรม 1GB (จาก 8GB)

ไมโครซอฟท์ให้เหตุผลว่าฟีเจอร์ UWP บน Xbox One ยังอยู่ในช่วงทดสอบ และในอนาคตจะค่อยๆ เปิดทรัพยากรให้มากขึ้น ในอนาคตไมโครซอฟท์ยังจะเปิดโหมด Developer ให้นักพัฒนาทดสอบเกมกับทรัพยากรที่มากขึ้นด้วย

ที่มา - Ars Technica