ซัมซุงเปิดตัว Galaxy S8 อย่างเป็นทางการ โดยแบ่งออกเป็นสองรุ่น คือ S8 และ S8+ ทั้งสองรุ่น มีสเปคดังนี้
จุดเด่นที่สุดของ Galaxy S8/S8+ คือหน้าจอที่กินพื้นที่เกือบแทบทั้งเครื่อง ปุ่ม Home หายไปอยู่ใต้จอทั้งหมด เหลือเพียงด้านบนที่ยังมีกล้องหน้า, ไมโครโฟน, และเซ็นเซอร์ อยู่
เรื่องน่าแปลกใจคือ Galaxy S8 ยังคงมีปุ่ม Home จริงอยู่แต่ซ่อนอยู่ใต้หน้าจอ ทำให้สามารถกดที่เดิมได้ พื้นที่โซนปุ่ม Home มีเซ็นเซอร์แรงกดอยู่ จึงสามารถแยกระหว่างการใช้แอปปกติกับการกด Home ได้
บริการใหม่ใน Galaxy S8 คือ Samsung Pass ที่เปิดให้บริการอื่นๆ เข้ามาใช้งานได้ ผู้ใช้สามารถล็อกอินบริการอื่นๆ ด้วยม่านตาหรือลายนิ้วมือ นอกเหนือไปจากการปลดล็อกเครื่อง ซัมซุงระบุว่า Samsung Pass จะเริ่มใช้งานกับแอปด้านการเงินก่อน แล้วขยายไปยังแอปอื่นๆ ภายหลัง
การปลดล็อกเครื่อง S8/S8+ ยังสามารถใช้การจดจำใบหน้าได้อีกด้วย รวมวิธีการปลดล็อกเครื่อง 6 วิธี คือ ม่านตา, จดจำใบหน้า, ลายนิ้วมือ (เซ็นเซอร์อยู่ข้างกล้องด้านหลัง), pattern, รหัสผ่านปกติ, และ PIN
ปัญญาประดิษฐ์ Bixby คล้ายกับ Google Assistant รวมกับ Google Now โดยผู้ใช้สามารถเรียก Bixby ขึ้นมาพูดคุยด้วยตลอดเวลา ทางซัมซุงระบุว่า Bixby จะเข้าใจหน้าจอว่าเป็นข้อมูลอะไรและควรทำอะไรกับมัน เช่น เมื่อเปิดแผนที่และบอกว่าให้ capture และส่ง ก็จะเข้าใจได้ว่าเป็นการจับภาพหน้าจอเพื่อส่งแผนที่ไปยังปลายทาง
Bixby ยังมีหน้าจอการ์ดแบบเดียวกับ Google Now แต่เรียงลำดับตามพฤติกรรมการใช้งานจริงของผู้ใช้ เช่น เวลาเช้าอาจจะต้องการอ่านข่าว, กลางวันต้องการหาร้านอาหาร, และกลางคืนต้องการดูนาฬิกาปลุก การ์ดก็จะเรียงการใช้งานบ่อยตามช่วงเวลาขึ้นมาให้เอง
นอกจากการทำงานในแง่ปัญญาประดิษฐ์แลัว Bixby ยังมีฟีเจอร์ที่ควรจะติดตั้งมากับโทรศัพท์ในตัวหลายอย่าง เช่น การอ่านโค้ด QR, การแปลงตัวอักษรในภาพเป็นข้อความ, ค้นหาสินค้าจากภาพ, ค้นหาข้อมูลสถานที่จากภาพ, และค้นหาภาพคล้ายกัน
กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เลนส์ F1.7 ขนาดพิกเซล 1.22 ไมโครเมตร กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล เลนส์ F1.7 ขนาดพิกเซล 1.44 ไมโครเมตร รองรับวิดีโอ 4K
เริ่มจำหน่ายในสหรัฐฯ 21 เมษายนนี้