นโยบายปิดกั้นชาวต่างชาติของทรัมป์ เปิดโอกาสให้แคนาดา เป็นซิลิคอนวัลเล่ย์แห่งใหม่

แคนาดาช่วงหลังๆ มานี้ลงทุนหนักมากเรื่องเทคโนโลยี ไม่เพียงภาครัฐ แต่ภาคเอกชนและการศึกษาต่างทยอยเปิดศูนย์วิจัย โดยเฉพาะในโตรอนโต ที่อาจเรียกได้ว่าจะเป็นซิลิคอนวัลเล่ย์แห่งใหม่ในอนาคตได้

อีกปัจจัยกระตุ้นให้แคนาดาเดินหน้าได้เร็วขึ้นคือนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ค่อนข้างปิดกั้นชาวต่างชาติ บรรดาวิศวกรนักพัฒนาเก่งๆ จากต่างประเทศก็จะหันไปหาแหล่งงานแห่งใหม่ในแคนาดาแทนในสหรัฐอเมริกา

ตัวเลขคนสหรัฐฯ ที่มาสมัครงานไอทีในแคนาดาพุ่งสูงขึ้นมาก Roy Pereira ซีอีโอบริษัท Zoom.ai ระบุว่าไม่เคยเห็นตัวเลขสมัครงานเยอะขนาดนี้ ส่วนใหญ่เป็นคนอเมริกัน มหาวิทยาลัยโตรอนโตมีนักศึกษาจากสหรัฐฯมาสมัครเรียนช่วงสิ้นปี 2016 มากขึ้น 70% (ก่อนทรัมป์จะออกนโยบายแบนชาวต่างชาติใน 7 ประเทศ)

ทีนี้มาดูกันว่าทำไมแคนาดาจึงน่าดึงดูดสำหรับคนไอที

• ที่โตรอนโต มี MaRS ที่คาดกันว่าจะเป็นซิลิคอนวัลเล่ย์แห่งใหม่ ก่อตั้งขึ้นมาจากการร่วมลงทุนของกลุ่มทุนต่างๆ เป็นศูนย์รวมคนจากภาคการศึกษา นักวิจัย นักธุรกิจ นักวิทยาศาสตร์ MaRS สามารถรองรับสตาร์ทอัพได้ 1,000 บริษัท มีแผนจะขยายพื้นที่เพิ่ม 1.5 ล้านตารางฟุต รองรับบริษัทใหญ่ได้ 250 แห่ง บริษัทลงทุนของ MaRS สามารถสร้างรายได้ 1.3 พันล้านภายในเวลา 7 ปี ตั้งเป้าทำรายได้รายปีเป็น 1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025
• ข้อมูลจาก Thomson Reuters ระบุว่า บริษัทลงทุนในประเทศแคนาดามีลงทุนในสตาร์ทอัพเพิ่มขึ้น 3.7 พันล้านดอลลาร์ สูงที่สุดในรอบ 15 ปี ไม่เพียงลงทุนมากขึ้น จำนวนบริษัทใหญ่ๆ ก็มากขึ้นด้วย
• Amazon กำลังมองหาลู่ทางในโตรอนโต เมื่อปีที่แล้วก็จ้างงานกว่าพันตำแหน่งในแวนคูเวอร์ Cisco และ Microsoft กำลังอยู่ระหว่างวางแผนขยายไปแคนาดา และ Google ก็จัดงานประชุมที่แคนาดาเมื่อปีที่แล้วในชื่องานว่า Go North

ภาพจาก Facebook MaRS

ที่มา - Business Insider