WSJ มีรายงานพิเศษประวัติของ Marne Levine ซึ่งเข้ามารับตำแหน่งซีโอโอ (COO) ของ Instagram ตั้งแต่ต้นปี 2015 ที่ตอนนั้นมีผู้ใช้งาน 300 ล้านคน ผ่านไปสองปี Instagram มีผู้ใช้เพิ่มถึงเท่าตัวเป็น 600 ล้านคน มีรูปแบบการหาโฆษณาสร้างรายได้ที่ชัดเจน และเพิ่มฟีเจอร์เพื่อแข่งกับ Snapchat ได้ผลลัพธ์อย่างดี
Levine เคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ในทำเนียบขาว รู้จักคุ้นเคยกับ Sheryl Sandberg ซีโอโอ Facebook เป็นอย่างดี โดยเข้ามาร่วมงานกับ Facebook ในปี 2010 ตำแหน่งรองประธานด้านนโยบายสาธารณะ (VP of Global Public Policy) ซึ่งดูแลความสัมพันธ์กับหน่วยงานรัฐทั่วโลก
เมื่อปี 2014 Kevin Systrom ซีอีโอ Instagram และผู้ร่วมก่อตั้ง Mike Krieger ถูกกดดันอย่างหนักเรื่องตัวเลขการเติบโตของ Instagram รวมทั้งโมเดลการหารายได้ เขาจึงติดต่อ Sheryl Sandberg ให้เข้ามาช่วยเหลือ ทำให้ได้ Marne Levine เข้ามาเป็นซีโอโอ ซึ่งเรื่องนี้อาจเปรียบเทียบได้เหมือนกับการที่ Sheryl Sandberg เองก็เข้ามาเป็นซีโอโอดูแลบริหารจัดการเรื่องราวต่างๆ ในบริษัท คู่กับซีอีโอ Mark Zuckerberg ของ Facebook
Levine พบว่าปัญหาใหญ่ของ Instagram ในตอนนั้นคือการไม่ควบคุมค่าใช้จ่ายและกำหนดงบประมาณต่างๆ, ไม่มีการจ้างพนักงานเต็มเวลา ส่วนมากยืมคนจาก Facebook ทำให้ไม่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ Levine ยังเพิ่มการบริหารความสัมพันธ์กับสื่อและบุคคลมีชื่อเสียง ซึ่งช่วยควบคุมภาพลักษณ์ของ Instagram ต่อสาธารณะ
สิ่งที่ Levine ได้ทำไปจึงมีทั้งการประชุมกำหนดงบประมาณประจำปี, ควบคุมค่าใช้จ่าย, เพิ่มจำนวนพนักงานเต็มเวลาในฝ่ายต่างๆ และกำหนดให้ซีอีโอมีกิจกรรมถามตอบกับพนักงานทุกสัปดาห์ เหมือนกับ Facebook
ผลจากการที่ Levine เข้ามาดูแลการดำเนินงานในบริษัท ทำให้สองผู้ก่อตั้ง Instagram มีเวลาไปโฟกัส พัฒนาระบบโฆษณาหารายได้ ตลอดจนออกฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อแข่งกับ Snapchat ออกมาได้อย่างรวดเร็วในช่วงสองปีที่ผ่านมา คาดกันว่าในปีนี้ Instagram อาจทำเงินจากโฆษณาได้สูงถึง 3,500 ล้านดอลลาร์
Kevin Systrom บอกว่า Levine นั้นถือเป็นกูรูในการบริหารประสิทธิภาพองค์กร และช่วยให้เขาไม่ต้องเผชิญปัญหาวุ่นวายจากการที่บริษัทโตอย่างรวดเร็วเป็นเท่าตัวจาก 300 ล้านคนสู่ 600 ล้านคน
ที่มา: WSJ