ชม Snapdragon Tech Day - เปิดตัวชิป Snapdragon 835 หัวใจมือถือเรือธงแห่งปี 2017

by twometre
24 May 2017 - 17:10

เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Blognone ได้มีโอกาสร่วมงาน Snapdragon Tech Day โดย Qualcomm ผู้ผลิตชิปสมาร์ทโฟน ซึ่งจัดขึ้นที่สิงคโปร์ครับ

ในงาน นอกจากโชว์ตัวเลขการเติบโตด้านต่างๆ หลักใหญ่ใจความคือพูดถึงเรื่องราวของ Snapdragon 835 ซึ่งเป็นชิป SoC (System on Chip) ใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงหลายรุ่นที่หลายเจ้าเปิดตัวไปก่อนหน้า ทั้ง Samsung Galaxy S8 (รุ่นที่จำหน่ายในบางประเทศ), Xiaomi Mi6, Sharp Aquos R ซึ่ง Qualcomm เองก็เปิดตัวชิปตัวนี้พร้อมเดโมฟังก์ชั่นพื้นฐานที่แต่ละแบรนด์นำไปพัฒนาเป็นคุณสมบัติของสมาร์ทโฟนตนเอง

งานเขียนนี้จะขอแกะ deck เล่าถึงเรื่องราวที่น่าสนใจของ Snapdragon 835 แทรกไปกับบรรยากาศการเดโม่ของจริงที่ได้สัมผัสมานะครับ

ใน 1 ชิป Snapdragon 835 ข้างในมีอะไรบ้าง

จุดเด่นแรกของ Snapdragon 835 คือขนาดการผลิตที่เล็กลงจากเดิมเป็น 10 นาโนเมตรแบบ FinFET
ซึ่งเล็กแซงซีพียูและจีพียูของพีซีไปแล้ว ผลที่ได้คือประหยัดพลังงาน ประหยัดพื้นที่จัดวางในเมนบอร์ด ส่งผลให้สมาร์ทโฟนมีขนาดบางลงได้นั่นเอง

ซึ่งด้านในของ Snapdragon 835 ประกอบไปด้วยหน่วยประมวลผลแยกหน้าที่กันชัดเจน เช่นจีพียูเป็น Adreno 540 ที่เร็วกว่าเดิม 25%, ซีพียูเป็น Kryo 280, หรือชิปโมเด็มที่พร้อมรับสัญญาณระดับ Gigabit LTE ได้ เป็นต้น และมากับเทคโนโลยี Quickcharge 4 ที่ชาร์จ 5 นาที มือถืออยู่ได้ 5 ชั่วโมง (รองรับทั้งหัว USB-C และ USB-PD)

ในงานมีการโชว์ขนาดชิปจริง ซึ่งเล็กกว่าจะซูมเห็นครับ

ชิปกราฟิกใน Snapdragon 835 รองรับการแสดงภาพแบบ Ultra HD Premium ที่ระดับสีแบบ HDR10 ที่ได้มิติมากกว่าเดิมด้วย ถัดจากเรือธง Snapdragon 820 ที่เริ่มเล่นไฟล์ 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาทีได้

โมเด็ม รองรับ Gigabit LTE

จุดเด่นหนึ่งของชิป Snapdragon 835 คือมีโมเด็มรุ่น X16 รองรับสัญญาณ LTE ในตัวกับมาตรฐาน 3xCA (Carrier Aggregation), 256-QAM พร้อมเสาสัญญาณแบบ 4x4 MIMO ที่เริ่มมีเครือข่ายในบ้านเรารองรับและโชว์สปีดที่เกือบแตะระดับกิกะบิตได้ผ่านสมาร์ทโฟนที่ใช้ชิปนี้ และอีกมุมก็รองรับไวไฟระดับกิกะบิตมาตรฐาน 802.11ad แล้ว

ในงานมีเดโมการกระจายสัญญาณ Gigabit LTE ในรูปแบบต่างๆ ก็พอเข้าใจได้ว่าในเซลล์ไซต์เดียวกันอุปกรณ์ที่รองรับมาตรฐานใหม่กว่าก็จะรับส่งข้อมูลได้ไวกว่า

ส่วนประมวลผลภาพ

อีกด้านหนึ่งของ Snapdragon 835 คือความสามารถเรื่องการประมวลผลภาพจากส่วนประมวลผลที่ชื่อ Qualcomm Spectra ที่พยายามเน้นการซูมแบบออปติคอลมากกว่าไปรีดออกจากภาพแต่ละเม็ดพิกเซล พร้อมระบบกันสั่น EIS3.0 และระบบออโต้โฟกัสแบบไฮบริด แสงเยอะวัดจากอัตราคอนทราสต์ แสงน้อยใช้เลเซอร์หรืออินฟราเรดช่วย ด้านการซูมภาพจะลื่นไหลขึ้นด้วย

เรื่องเสียง ท้าชน DAC ราคาแพง

Snapdragon 835 ชี้ว่าตนมากับหน่วยประมวลผลเสียง Aqstic ที่หน่วยถอดรหัสและภาคขยายเสียงอยู่แยกกัน รองรับการขับเสียงทั้งแบบสายและไร้สายผ่านบลูทูธที่เสริมด้วย AptX

บริเวณส่วนของเดโม มีการท้า Blind Test เสียงเพลงจากสมาร์ทโฟน Snapdragon 835 กับเสียงจาก DAC เครื่องใหญ่เมื่อใช้หูฟังระดับเดียวกัน ผลคือถ้าฟังผ่านๆ ก็ยากจะแยกออกนะครับ (ไม่ถนัดเหมือนกัน)

Machine Learning ก็รองรับ

อีกหนึ่งความเก่งกาจของ Snapdragon 835 คือมีส่วนประมวลผลด้าน Machine Learning ที่ช่วยอ่านและจดจำวัตถุ จดจำเสียงผู้ใช้ ซึ่งเดโมไปจำลองกับแอพสั่งเปิดอีเมล ถ้าไม่ใช่เสียงเจ้าของแม้พูดคำเดียวกันก็เปิดอีเมลไม่ได้ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ก็เป็นพื้นฐานของลูกเล่นอย่าง Bixby ใน Galaxy S8 นั่นเอง

ในงานไม่ได้นำเครื่องจากแบรนด์ใดมาเดโม แต่เป็นสมาร์ทโฟนทรงแข็งๆ เหลี่ยมๆ แปะตรา Snapdragon ไว้เดโมฟีเจอร์ล้วนๆ ครับ

สายงาน VR ก็มีคนเอา SD 835 ไปใช้

Snapdragon 835 ยังถูกนำไปใช้กับงาน Virtual Reality โดยเป็นส่วนหนึ่งในแว่นหรือเครื่องสวมศีรษะ พร้อมมีเครื่องมือ VRDK ให้นักพัฒนาสร้างคอนเทนต์ แอพ ต่อยอดจากสิ่งที่ฮาร์ดแวร์ทำได้ เดโมในงานมีให้สวมแว่น Cardboard เสพคอนเทนต์ของภาพยนตร์ Power Rangers ครับ ลื่นไหลดี ซึ่งจุดนี้ Qualcomm อธิบายว่าทำงานกับระบบแทร็กกิ้งเครื่องจากเครื่อง Leap Motion ครับ

และงานในวันดังกล่าว แล้วยังมีเรื่องของชิป Snapdragon 660 และ 630 เปิดตัวมาพร้อมกันด้วย โดยสเปคก็ลดหลั่นจาก 835 ลงไป

สรุป

งาน Tech Day ของ Qualcomm ในวันนั้นก็ทำให้เห็นแสนยานุภาพอันเป็นสารตั้งต้นของ Snapdragon 835 ที่พร้อมให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนนำไปใช้และสร้างเครื่องของตนออกจำหน่ายเป็นรุ่นเรือธงต่อไป เห็นภาพรวมเทคโนโลยีบนมือถือต่อจากนี้ในอีกหนึ่งปีข้างหน้า ตามรอบวัฏจักรของยุทธภพ

บรรยากาศอาจไม่เหมือนงานเปิดตัวซีพียูหรือกราฟิกการ์ดของฝั่งพีซีมากนัก เพราะนั่นเราสามารถเลือกชิ้นส่วนประกอบออกมาเป็นระบบที่เราต้องการได้ แต่โลกของสมาร์ทโฟนนั้นขึ้นอยู่กับผู้ผลิตแต่ละรายเลือกชิ้นส่วนสเปคต่างๆ ออกมาเป็นเครื่องให้เราเทียบสเปคและเลือกซื้อกันอีกทีนั่นเอง ถือว่าเป็นของใหม่สำหรับผมครับ

Blognone Jobs Premium