วันนี้ (26 พฤษภาคม 2560) บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด กับ บมจ. ทีโอทีร่วมกันแถลงข่าวที่ทีโอทีเลือกให้ดีแทคเป็นคู่ค้าในการให้บริการไร้สายคลื่นความถี่ 2300 MHz และจะเป็นครั้งแรกที่นำเทคโนโลยี 4G LTE-TDD มาให้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือในประเทศไทย โดย บมจ.ทีโอทีคาดว่าจะมีรายได้จาก dtac ปีละ 4,510 ล้านบาท
มนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทีโอที ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของทีโอที มีมติให้ดีแทคเป็นคู่ค้าในการให้บริการไร้สายคลื่นความถี่ 2300 MHz โดยผ่านขั้นการคัดเลือกจากบริษัทอีกหกรายที่ยื่นข้อเสนอเข้ามา รวมทั้งปรึกษากับที่ปรึกษาซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Deutsche Telekom โดยดีแทคเสนอทำสถานีฐานสองหมื่นกว่าแห่ง ทำให้ดีแทคได้คะแนนสูงสุดได้รับเลือกเป็นคู่ค้า
หลังจากนี้ ดีแทคจะเป็นผู้ดำเนินการจัดให้มีสถานีฐานจำนวนประมาณ 20,000 กว่าแห่งให้ทีโอทีเช่าใช้งาน ส่วนทีโอทีเป็นผู้บริหารจัดการโครงข่ายสื่อสารไร้สายนี้ด้วยตนเอง นายมนต์ชัยระบุเพิ่มเติมว่า บริการไร้สายคลื่นความถี่ 2300 MHz มีช่องสัญญาณที่กว้างถึง 60 MHz สามารถให้บริการดาวน์โหลดได้ 300 Mbps
นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ระบุว่า ช่องสัญญาณของ TOT กว้าง 60 MHz เป็นช่องสัญญาณที่ใหญ่มาก และเป็นครั้งแรกที่จะนำเทคโนโลยี 4G LTE-TDD มาใช้ในประเทศไทย
LTE-TDD หรือ Long-Term Evolution Time-Division Duplex คือเทคโนโลยี LTE ที่เสนอโดย China Mobile จุดเด่นคือ ผู้ให้บริการสามารถจัดสรรช่วงคลื่นการรับส่งข้อมูลตามพฤติกรรมการใช้งาน เช่นผู้ใช้ชอบดาวน์โหลดมากกว่าอัพโหลดก็สามารถจัดสรรช่องทางให้ดาวน์โหลดมากกว่าอัพโหลดได้ ส่วน 4G LTE ที่บ้านเราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน เป็นแบบ FDD ทั้งหมด
ทางดีแทคระบุว่า ผู้ใช้มือถือที่เป็นลูกค้าดีแทคในไทยก็มี 70% ที่ใช้โทรศัพท์มือถือรองรับ 4G LTE-TDD แล้ว