งานแข่งเกมเป็นยังไง? พาทัวร์ Manila Masters ทัวร์นาเมนต์ Dota 2 ล่าสุดของโซน SEA

by geekjuggler
4 June 2017 - 03:23

เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (26-28 พฤษภาคม) ผมได้มีโอกาสบินไปร่วมชมทัวร์นาเมนต์ Dota 2 รายการใหม่ล่าสุด “The Masters” เปิดตัวการแข่งขันครั้งแรกที่เมืองมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ภายใต้ชื่อ “Manila Masters” เลยอยากจะชวนผู้อ่านหลายๆ คนที่ยังสงสัยอยู่ว่า “เอ๊ ในงานแข่งเกม เขามีอะไรกันบ้าง” มาร่วมเดิน ร่วมชมงานนี้ไปด้วยกันครับ

ในขณะที่บ้านเรากำลังถกเถียงกันอย่างดุเดือดว่า เกมถือเป็นกีฬาหรือไม่ เราควรให้ลูกเราเล่นเกมหรือเปล่า แต่เมื่อลองถอยออกมาหนึ่งก้าว ในระดับโลก eSports เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยตัวเลขมูลค่ารวมกว่า 500 ล้านดอลลาร์ในปี 2016

บรรดาผู้พัฒนาเกมและผู้จัดการแข่งขันต่างก็เริ่มมองหาตลาดใหม่ๆ นอกเหนือจากยุโรปหรือโซนอเมริกา แน่นอนว่า ประเทศในแถบเอเชียก็เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่หลายๆ คนต่างจับตามอง

The Masters คืออะไร

The Masters เป็นทัวร์นาเมนต์ Dota 2 รายการใหม่ของ ESL ผู้จัดการแข่งขัน eSports ยักษ์ใหญ่ พวกเขาเลือกเปิดตัวรายการนี้ด้วย “Manila Masters” โดยร่วมมือกับ Mineski-Event Team ทีมจัดงานอีเวนต์ในประเทศฟิลิปปินส์ มี 8 ทีมดังจากทั่วโลกอย่าง OG, EG, Newbee, Team NP, Clutch Gamers, Team Faceless, Invictus Gaming, และ Team Secret ชิงเงินรางวัลรวม 250,000 ดอลลาร์

เหตุผลที่เลือกฟิลิปปินส์ในการเปิดตัวรายการใหม่นี้ น่าจะมาจากความสำเร็จอันล้นหลาม ความคลั่งไคล้ในตัวเกมแบบสุดขีด และผลตอบรับอันท่วมท้นจากแฟนๆ Dota 2 ของฟิลิปปินส์ ที่ทำให้ทั้งผู้เล่น แคสเตอร์ และบุคลากรในวงการต้องตะลึงกันมาแล้วในสองทัวร์นาเมนต์ใหญ่ก่อนหน้าอย่าง The Manila Major งานแข่งระดับ Major ของ Valve และ ESL One Manila 2016

Manila Masters 2017 จัดขึ้นที่ SM Mall of Asia Arena สถานที่จัดอีเวนต์ชื่อดังของฟิลิปปินส์ จากการคาดคะเนด้วยสายตาแล้ว ขนาดน่าจะพอๆ กับธันเดอร์โดม เมืองทองธานีของบ้านเรา

ตั๋วที่ผมซื้อคือตั๋ว Premium ราคา 7500 เปโซ (ราว 5,250 บาท) สิ่งที่จะได้คือตั๋วเข้างาน 3 วันสำหรับที่นั่งด้านล่างซึ่งใกล้เวทีที่สุด, Goodie Bag ของงานนี้, อาหารกลางวันฟรี, สิทธิ์เข้าร่วมการแจกลายเซ็นของผู้เล่นและแคสเตอร์ สิทธิ์พิเศษในการต่อคิวซื้อสินค้าภายในงาน, และได้ร่วมลุ้นรับ Golden Ticket ใช้แทนเงินสด 2500 เปโซในการซื้อสินค้าจากร้านขายของ The Secret Shop PH

บรรยากาศสุดตื่นเต้น

คนที่ไม่คุ้นเคยกับการแข่งขันเกมก็อาจจะงงๆ ว่า แล้วเวลาไปนั่งดูกันเนี่ย เขาดูกันยังไง นั่งดูคนกดคอมกันเหรอ หรือ มันจะต่างกับเวลาเราไปเดินดูคนเล่นเกมในอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ขนาดไหน

ถ้าหากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพได้ง่ายสุด การไปชมการแข่งขันเกมแบบนี้ให้ฟิลลิ่งเหมือนกับการไปชมการแข่งขันฟุตบอลแมตช์หยุดโลกที่มักจะจัดขึ้นหน้าห้างสรรพสินค้า ทุกคนดูเกมพร้อมกันผ่านจอขนาดยักษ์ใหญ่ตรงกลาง พร้อมเสียงพากย์จากแคสเตอร์ที่บรรยายเกมให้ฟังแบบสดๆ ภายในงาน ร่วมชมร่วมเชียร์ไปพร้อมๆ กัน

แต่จุดต่างกันตรงที่งานเกมแบบนี้ ผู้เล่นแข่งขันให้เราได้ชมตรงหน้า (พวกเขาจะใส่ที่ครอบหู เพื่อป้องกันการได้ยินการบรรยายเกม) ไม่ได้ยิงสัญญาณมาให้เราชมจากต่างประเทศแต่อย่างใด


มีพนักงานเดินขายป๊อปคอร์นและของกินตลอดงาน สำหรับคนที่ไม่อยากพลาดการแข่งขัน

คนดูไม่ได้มีแต่คนฟิลิปปินส์เพียงอย่างเดียว มีคนจากหลายประเทศบินมาดูการแข่งขันในครั้งนี้ด้วย (เท่าที่เห็นก็มีอยู่หลายชาติ เช่น จีน ญี่ปุ่น หรือแม้กระทั่งออสเตรเลีย) แต่ถึงแม้จะมาจากคนละที่กัน แต่บรรยากาศร่วมในการชมการเชียร์นั้นสุดยอดมาก คือทุกคนเชียร์ทีมที่ตัวเองรักกันอย่างเต็มที่ พร้อมเฮกันแบบไม่มีกั๊กในจังหวะการเล่นสุดสวย หรือ ตะโกนให้กำลังใจผู้เล่นกันอย่างสุดเสียงยามทีมกำลังเพลี่ยงพล้ำ บรรยากาศสุดพิเศษแบบนี้คือสิ่งที่หาไม่ได้จากการชมการแข่งขันในแบบออนไลน์


ภายในงานจะมีการถ่ายทอดสดผ่านสตรีมในภาษาต่างๆ ในภาพคือคุณแบงค์ Cyberclasher (ใส่หมวก) ตัวแทนแคสเตอร์ภาษาไทยอย่างเป็นทางการ

เกมที่บรรยากาศในสนามพีคที่สุดคงต้องยกให้เกมที่ 2 แมตช์การมาพบกันระหว่าง Evil Geniuses กับ Team NP ซึ่ง Evil Geniuses โกงความตายพลิกกลับมาชนะด้วยจังหวะพลิกเกม 2 ครั้งสวยๆ จาก Syed Sumail "Suma1L" Hassan ผู้เล่นตำแหน่ง Mid ของ EG ที่ทำให้คนดูเฮกันสนามแทบแตก

ลองคิดดูนะครับว่า EG และ Suma1L คือทีมและผู้เล่นในดวงใจของแฟนๆ Dota 2 ชาวฟิลิปปินส์ที่หลายคนคลั่งมาก บรรยากาศความดุเดือดในสนามนั้นเรียกได้ว่าพุ่งกันถึงขีดสุดเลยทีเดียว

นอกจากแข่งเกมมีอะไรบ้าง?

นอกเหนือจากการแข่งขันที่จะเริ่มตั้งแต่กันตั้งแต่ช่วงสิบเอ็ดโมงไปจนถึงเกือบๆ ห้าทุ่ม ตลอด 3 วันแล้ว ภายในงาน Manila Masters ก็ยังมีอีกหลากหลายกิจกรรมให้คนได้เข้าร่วมอย่าง บูธกิจกรรมแจกของจากสปอนเซอร์ในงาน The Secret Shop PH ร้านค้าที่ขายสินค้าเกี่ยวกับ Dota 2 เช่น สินค้าจาก Valve จำพวกตุ๊กตา เครื่องแต่งกายต่างๆ หรือ เสื้อทีม เป็นต้น ซึ่งถึงแม้ราคาจะเรียกได้ว่าค่อนข้างสูง แต่ก็มีแฟนๆ ไปเข้าแถวรอซื้อกันไม่ขาดสายตลอดทั้งวัน รวมถึงการประกวดคอสเพลย์ที่จัดทำชุดกันมาแบบจัดเต็ม

สำหรับผู้ถือตั๋ว Premium ทางงานเปิด Exclusive Signing Session นำผู้เล่นและแคสเตอร์มาแจกลายเซ็นและพบปะกับแฟนๆ โดยทีมดังๆ อย่าง Evil Geniuses นั้น มีแฟนๆ มารอต่อคิวขอลายเซ็นล่วงหน้ากันเป็นชั่วโมงเลยทีเดียว

ชนะใจเจ้าบ้าน

สิ่งที่น่าชื่นชมทีมงานผู้จัด Manila Masters คือการคิดคอนเทนต์วิธีการที่สามารถชนะใจแฟนเจ้าถิ่นได้อย่างอยู่หมัด อย่างเช่น ในแมตช์การแข่งขันระหว่าง Team Faceless จากสิงคโปร์ กับ Clutch Gamers ทีมจากมาเลเซียแต่ผู้เล่นในทีมทั้งหมดเป็นชาวฟิลิปปินส์ เสียงพากย์เกมภายในงานที่ปกติจะใช้ภาษาอังกฤษ ก็สลับมาใช้เป็นแคสเตอร์ฟิลิปปินส์ บรรยายเกมด้วยภาษาตากาล็อกแทน

แม้ว่าผมจะฟังไม่ออกเลย แต่ด้วยลีลาน้ำเสียงความเร้าใจในการพากย์ (ความรู้สึกเหมือนฟังการพากย์แข่งเรือยาวของบ้านเราแต่ดุเดือดและอินกว่านับสิบเท่า) ก็สนุกไปกับบรรยากาศเสียงเฮของคนส่วนใหญ่ภายในฮอลล์ได้ไม่ยาก

หรือ กิจกรรมบนเวทีระหว่างรอการแข่งขัน ที่เชิญคนดูมาร่วมแสดงละครใน "ฉากการสั่งเสียก่อนตาย" ฉากยอดฮิตในละครน้ำเน่าของฟิลิปปินส์ร่วมกับผู้เล่นและแคสเตอร์ ก็เรียกเสียงฮาและชนะใจแฟนๆ รอบสนามได้เป็นอย่างดี

การปรับตัวให้ชนะใจผู้ชมท้องถิ่นแบบนี้ เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าทางทีมงานให้ความสำคัญกับหนึ่งในเมืองหลวงแห่ง Dota 2 เมืองนี้มากขนาดไหน

บทสรุป

หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบ eSports และติดตามการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง การได้ไปชมการแข่งขันรอบ LAN แบบนี้คือประสบการณ์ชีวิตที่คุณควรลองสักครั้งในชีวิต เพราะการได้สัมผัสถึงบรรยากาศของจริงและอยู่ท่ามกลางคนที่ “อิน” ไปด้วยกัน มันทรงพลังและคุ้มค่ามากๆ

นอกจากนี้ ความพิเศษของงาน Manila Masters อีกอย่างคือแฟนๆ ชาวฟิลิปปินส์ที่พร้อมจะแสดงออกและจัดเต็มมากต่อการเชียร์ทีมหรือผู้เล่นที่เขาชอบ เลยยิ่งทำให้บรรยากาศในงานสนุกขึ้นไปอีก


สติ๊กเกอร์ตัวละครสุดน่ารักที่นักวาดนำมาแจกในงาน ติดตามผลงานของเธอได้ที่ L I L I P U T

อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ว่า Manila Masters จะไม่มีข้อเสียอะไรเลย เท่าที่ตามอ่านใน Reddit และการสัมผัสด้วยตัวเอง มีอยู่หลายจุดที่ผู้จัดงานต้องกลับไปทำการบ้าน ปรับปรุงกันใหม่ในครั้งหน้า เช่น ในช่วงแจกลายเซ็น เจ้าหน้าที่เร่งแฟนๆ ให้รีบขอลายเซ็นและไล่แถวแบบเร็วเกินไป จนบางคนแทบจะไม่ได้คุยกับผู้เล่นที่มาแจกลายเซ็นเลย

การแซงคิวกันด้วยการใช้อภิสิทธิ์รู้จักกับสตาฟฟ์ หรือ เรื่องของการจัดวางลำโพงที่บังการชมเกมของผู้ชมบนอัฒจรรย์ชั้นบน เป็นต้น

(ความผิดหวังส่วนตัวคือ การไม่ได้ขอลายเซ็นของ Jacky “EternalEnvy” Mao ผู้เล่นในดวงใจ เพราะตารางการแข่งขันที่ทำให้ Team NP ไม่มีช่วงว่างสำหรับการแจกลายเซ็น)


แชมป์ตกเป็นของ Evil Geniuses ที่เอาชนะ Newbee ไปได้ 3-1 เกม รับเงินรางวัล 125,000 ดอลลาร์

หากคุณเป็นคนที่ไม่เคยสนใจ eSports ผมคิดว่านี่คือความบันเทิงรูปแบบใหม่ที่กำลังจะมา (ที่จริง มาได้สักพักแล้ว) และกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนขึ้นมาเบียดความบันเทิงจากการชมกีฬาแบบดั้งเดิมได้อย่างแน่นอน

สุดท้ายนี้ หากจะถามว่างาน Dota 2 สเกลใหญ่แบบ Manila Masters จะมีโอกาสเกิดขึ้นในบ้านเราไหม ส่วนตัวผมคิดว่าแฟนๆ ชาวไทยคงจะต้องแสดงพลังเพื่อทำให้ผู้จัดงานเห็นถึงความคุ้มค่าที่จะมาลงทุนจัดงานในไทยกันมากกว่านี้ เพราะนอกจากฟิลิปปินส์แล้ว ตัวเลือกสำหรับงานสเกลใหญ่ๆ ยังมีสิงคโปร์เป็นคู่แข่งที่สำคัญ แต่ผมก็หวังลึกๆ เหมือนกันว่า สักวันหนึ่งจะได้เชียร์ทีม Dota 2 ที่ชอบในบ้านเราเช่นกันครับ

Blognone Jobs Premium