ธนาคารกสิกรไทยเปิดตัวบริษัทบีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล (Beacon Venture Capital) เพื่อเป็นหน่วยงานที่ร่วมลงทุนในสตาร์ทอัพ ภายใต้แนวคิด The Next Building Block โดยมีเม็ดเงินลงทุน 1,000 ล้านบาท หนุนพัฒนานวัตกรรมด้านการเงินที่ส่งเสริมกลยุทธ์ของธนาคาร
Beacon VC ประเดิมเป็นธนาคารไทยรายแรกที่ลงทุนในรูปแบบ Venture Capital (VC) แก่สตาร์ทอัพไทย FlowAccount ตั้งเน้นลงทุนสตาร์ทอัพโดยตรง 3-5 แห่ง และลงทุนในกองทุน VC อื่น ๆ 2-3 แห่งในปี 2560
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีความต้องการบริการดิจิทัล แบงกิ้งเพิ่มขึ้น รวมทั้งความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่จะมาเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการของธนาคารในอนาคต ธนาคารกสิกรไทยจึงได้กำหนดยุทธศาสตร์หลักในการนำเทคโนโลยีดิจิทัล มาสนับสนุนธุรกิจของธนาคารในด้านต่างๆ รวมทั้งร่วมมือพันธมิตรสร้างความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวเพื่อการเติบโตของธุรกิจที่ยั่งยืน
ล่าสุด ธนาคารกสิกรไทย ตั้งบริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (Beacon Venture Capital Co.,Ltd.) หรือ Beacon VC โดยธนาคารถือหุ้น 100% เพื่อร่วมลงทุนในกองทุน VC หรือสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพในการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการเงินและเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ที่สอดคล้องและสามารถรองรับแผนยุทธศาสตร์ของธนาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
Beacon VC มีวงเงินลงทุนเริ่มต้น 1,000 ล้านบาท และมีนโยบายการลงทุน 2 รูปแบบ ได้แก่การลงทุนโดยตรง (Direct Investment) ทั้งสตาร์ทอัพไทยและต่างประเทศ และการลงทุนผ่านกองทุนเงินร่วมลงทุน (Venture Capital Fund) ชั้นนำ โดยมีนายธนพงษ์ ณ ระนอง ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในสตาร์อัพ เป็นกรรมการผู้จัดการ
นายธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2560 บริษัทมีแผนการลงทุนโดยตรงในฟินเทคสตาร์ทอัพประมาณ 3-5 แห่ง และลงทุนผ่านกองทุน เงินร่วมลงทุนประมาณ 2-3 แห่ง โดยบริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัลจะเป็น Corporate Venture Capital ของธนาคารแห่งแรกของไทยที่ได้เลือกลงทุนในรูปแบบร่วมลงทุน (VC) ในสตาร์ทอัพไทย ได้แก่ บริษัท FlowAccount โดยจะเป็นผู้ลงทุนหลัก (Lead Investor) พร้อมกับนักลงทุนอื่นอีก 3 ราย
บีคอนมองว่า FlowAccount เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพและร่วมงานกับทางธนาครอยู่แล้ว มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาระบบจัดการบัญชีของเอสเอ็มอี โดยระบบบัญชีของ FlowAccount สามารถเชื่อมข้อมูลบัญชีของบริษัทเข้ากับบัญชีเงินฝากที่ธนาคาร และบริการธนาคารทางมือถือสำหรับนิติบุคคล (K-PLUS SME) ได้ด้วย
Beacon VC ยังลงทุนผ่านกองทุนเงินร่วมลงทุน (VC Fund) ในสิงคโปร์ชื่อ Dymon Asia ซึ่งเป็นหนึ่งในกองทุนเงินร่วมลงทุนชั้นนำของเอเชียที่เน้นการลงทุนทางด้านฟินเทค นอกจากนี้ปัจจุบันยังมีแผนลงทุนที่อยู่ระหว่างการดำเนินการอีก 2 ดีล รวมมูลค่าการลงทุนทั้งหมดกว่า 200 ล้านบาท
ตราสัญลักษณ์ของ Beacon VC คือประภาคารที่ส่องแสงนำทางให้ฟินเทคและสตาร์ทอัพที่เป็นพันธมิตร และเมื่อรวมกับเทคโนโลยีดิจิทัลของ KBTG ผนวกกับความร่วมมือของธนาคารกสิกรไทยในรูปแบบของ Digital Partnership ที่มีฐานข้อมูลลูกค้าของธนาคารฯ กว่า 14.2 ล้านราย จะสามารถนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ทันสมัย เหมาะกับความต้องการของลูกค้า ในระยะเวลา (time to market) ที่รวดเร็ว
วัตถุประสงค์หลักในการลงทุนของ Beacon VC คือการสร้างผลกำไรที่ยั่งยืนให้แก่ธนาคาร โดยมีกลยุทธ์คือการเพิ่มคุณค่า (Value Proposition) ให้ผลิตภัณฑ์และบริการของธนาคาร การลดระยะเวลาหรือต้นทุนในการพัฒนานวัตกรรม การใช้ประโยชน์จากการเป็นผู้บุกเบิกการลงทุน (First Mover Advantage) เพื่อเป็นการเข้าถึงและสร้างความเป็นผู้นำทางนวัตกรรมให้แก่ธนาคาร และการพัฒนาความเชี่ยวชาญให้กับบุคลากรและพัฒนาขีดความสามารถทางเทคโนโลยีของธนาคาร
การจัดตั้งบริษัทบีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล เป็นส่วนหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ของการดำเนินธุรกิจ เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันเชิงกลยุทธ์ด้านดิจิทัล (Strategic Digital Capability) ให้แก่ธนาคาร
ที่ผ่านมา ธนาคารก่อตั้ง KBTG เพื่อมุ่งคิดค้นนวัตกรรม ร่วมกับพันธมิตรทางเทคโนโลยี และจับมือฟินเทคและเทคสตาร์อัพ สร้างนวัตกรรมทางการเงินรองรับดิจิทัลแบงกิ้งที่เติบโตแบบก้าวกระโดด ล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทยได้อนุมัติให้ KBTG เข้าร่วมทดสอบบริการการเงินรูปแบบใหม่ใน Regulatory Sandbox เป็นรายแรก โดเป็นบริการที่ดึงเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในการพิจารณาออกหนังสือค้ำประกันให้ลูกค้า
จากแนวคิด The Next Building Block เติมเต็มให้ระบบนิเวศน์ (Ecosystem) ให้สมบูรณ์ ทั้ง 3 หน่วยงานของธนาคาร คือ Digital Partnership, KBTG และ Beacon VC จะช่วยส่งเสริมให้สตาร์ทอัพเติบโต มั่นคง และนำความยั่งยืนมาสู่ธนาคารในระยะยาว
"KBank พร้อมที่จะทำงานร่วมกับ Fintech ตามวิสัยทัศน์ที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน KBank และ KBTG เราร่วมทำ Solution สำหรับตลาดใหม่ ไม่ใช่แค่ประกาศ Strategy ที่จะไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว” นางสาวขัตติยากล่าว
นายธนพงษ์กล่าวว่า “เราลงทุนไม่ได้แค่เรื่องเงินทุนอย่างเดียว เราลงทุนในรูปแบบ Strategic Investment เราจะให้ Strategic และความรู้ด้านต่างๆ แก่น้องๆ สตาร์ทอัพด้วย ด้านเทคนิคเรามี KBTG ที่มาช่วยทำให้สตาร์ทอัพทำงานได้ดีขึ้น ส่วนเรื่องเงินทุน สามารถทำให้สตาร์ทอัพเข้าสู่ฐานลูกค้าของ Kbank ซึ่งมีถึง 14.2 ล้านคน”
ปัจจุบัน Beacon VC ลงทุนไปแล้ว 4 โครงการในระยะเวลาไม่กี่เดือน การลงทุนกับ Dymond Asia Venture ซึ่งเน้นลงทุนด้านฟินเทคเป็นหลัก จะทำให้ได้นวัตกรรมต่างๆ ตัว Dymond Asia อาจจะได้ Capital Gain ด้วย และอาจได้ข้อมูลข่าวสารรวมทั้งพัฒนาการต่างๆ ในโลกนี้ที่ทำให้ Kbank เห็นเทรนด์และปรับตัวได้ดีมากขึ้น
ส่วนบริษัท FlowAccount ก่อนหน้านี้เคยร่วมงานกับ Kbank มาระดับหนึ่งแล้ว ลูกค้าเคยได้รับบริการแล้วมีความสุข มีความมั่นคงทางการเงิน ทำให้การลงทุนใน FlowAccount มีลักษณะ Win-Win Situation ทุกคนเลย
1,000 ล้านนี่เป็นเพียงเงินก้อนแรกในการเริ่มต้นเท่านั้น เราตั้งใจตั้ง VC ขึ้นมาเพื่อให้สตาร์ทอัพไทยเติบโต เรามีลูกค้า 14.2 ล้านราย กสิกรมีพร้อมทุกฟังก์ชั่น ทั้ง 14.2 ล้านรายนี้มิได้หมายความว่าเราเก่งที่สุดแล้ว เราเป็นองค์กรไทย และอยากให้ฟินเทคไทยเติบโต จึงอยากให้มาช่วยกันเพื่อที่จะให้เศรษฐกิจประเทศเติบโตได้