อดีตพนักงานทีม Siri เผยสาเหตุที่แอปเปิลตามหลัง Amazon และ Google แม้เริ่มทำก่อน

by mk
15 June 2017 - 01:08

Wall Street Journal อ้างข้อมูลจากอดีตพนักงานแอปเปิลที่อยู่ในทีม Siri เผยเบื้องหลังที่ทำให้ Siri พัฒนาช้ามากในช่วงหลัง แม้จะเริ่มต้นก่อนคู่แข่งหลายปี

เคยมีการทดสอบของบริษัท Stone Temple ยิงคำถาม 5,000 คำถามไปยัง AI เหล่านี้ ผลคือ Google Assistant และ Amazon Alexa ให้ผลลัพธ์แม่นยำ 90% ในขณะที่ Siri ทำได้ 62%

ปกติแล้ว แอปเปิลมักเข้าตลาดทีหลังคู่แข่ง แต่แซงมาเอาชนะได้ในภายหลัง กรณีของ Siri แอปเปิลเป็นฝ่ายเข้าตลาดก่อนตั้งแต่ตอน iPhone 4s ในปี 2011 (และเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ตัวท้ายๆ ของสตีฟ จ็อบส์ด้วย) แต่กลับถูกแซงโดยทั้ง Amazon และ Google

เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะ iPhone ประสบความสำเร็จสูงมาก จนทำให้วิธีคิดของแอปเปิลต้องผูกทุกอย่างเข้ากับ iPhone ตลอดเวลา ในขณะที่คู่แข่งอย่าง Amazon สามารถคิดต่างด้วยการสร้างอุปกรณ์ชนิดใหม่ๆ อย่างลำโพง Echo ขึ้นมาได้

ทีมงาน Siri ยังอธิบายว่าแอปเปิลจ้าง Bill Stasior ผู้บริหารฝ่าย search จาก Amazon เข้ามาดูแลโครงการ Siri แต่ความเชี่ยวชาญของเขาคือเรื่อง search ไม่ใช่เรื่องเสียงพูดหรือภาษา ส่งผลให้ทีมงาน Siri บางคนมองว่าวิสัยทัศน์เดิมที่จะสร้าง Siri ให้ทุกแอพใช้งานได้ ไม่สามารถเป็นได้จริง แอปเปิลหันไปเน้นปรับปรุง Siri สำหรับงานง่ายๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ iPhone แทน

ผู้ก่อตั้ง Siri สองคนคือ Adam Cheyer และ Dag Kittlaus จึงลาออกในเวลาต่อมา และออกไปตั้งบริษัท Viv Labs ที่ภายหลังซัมซุงซื้อกิจการไปเป็น Bixby

หลังผู้ก่อตั้งลาออกไปแล้ว แอปเปิลยังมีปัญหาการเมืองภายในของทีม Siri โดยพยายามรวมทีม speech recognition กับทีม natural language เข้าด้วยกัน สุดท้ายต้องเปลี่ยนตัวเป็นผู้บริหารที่ไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ และผู้เชี่ยวชาญด้าน speech recognition บ้างก็ลาออกไปอยู่กับสตาร์ตอัพ บ้างก็ไปอยู่กับคู่แข่ง Amazon/Google

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ อดีตทีมงาน Siri มองว่า Amazon/Google พัฒนาระบบ AI ดีกว่าเพราะมีข้อมูลใช้เทรนมากกว่า ต่างไปจากแอปเปิลที่เน้นเรื่องความเป็นส่วนตัว ข้อมูลที่ใช้เทรนจึงเป็นข้อมูลทั่วไปที่ไม่อิงอยู่กับตัวผู้ใช้งาน

ที่มา - Wall Street Journal

Blognone Jobs Premium