นโยบายสุดเข้มงวดของ Konami ทั้งกับพนักงานปัจจุบัน-อดีต บีบคนลาออกจำนวนมาก

by mk
15 June 2017 - 03:09

ความขัดแย้งระหว่าง Konami กับอดีตพนักงาน Hideo Kojima โด่งดังเป็นข่าวใหญ่ทั่วโลก แต่เอาเข้าจริงแล้ว Konami ไม่ได้เลือกปฏิบัติ เพราะทำแบบเดียวกันกับพนักงานทุกคน

Nikkei สัมภาษณ์อดีตพนักงานของ Konami หลายคน พบว่านโยบายของ Konami เข้มงวดกับพนักงานปัจจุบันและอดีตพนักงานมาก ส่วนหนึ่งมาจากนโยบายของ Kagemasa Kozuki ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท ที่เป็นคนระมัดระวัง (very cautious) อย่างมาก

กรณีของพนักงานปัจจุบัน

  • ไม่อนุญาตให้มีอีเมลแอดเดรสถาวรของตัวเอง เวลาติดต่อกับคนนอกจะได้อีเมลที่มีอักษรสุ่ม และใช้งานได้เพียงไม่กี่เดือน
  • จำกัดเวลาพักเที่ยง ต้องแตะบัตรเข้าออกเพื่อดูว่าพักเที่ยงนานแค่ไหน
  • คนที่พักนานเกินกำหนด จะถูกประกาศชื่อไปทั้งบริษัท
  • โซเชียลของพนักงานจะถูกมอนิเตอร์ เคยมีพนักงานไปกดไลค์โพสต์ของอดีตพนักงาน ผลคือถูกย้ายตำแหน่ง

กรณีของอดีตพนักงาน หรือที่เรียกกันว่า Ex-Kon (Ex-Konami)

  • ลาออกไปแล้วห้ามใส่ประวัติว่าเคยทำงานกับ Konami เวลาไปสมัครงานที่ใหม่
  • บริษัทอื่นที่รับอดีตพนักงาน Konami ไป จะได้รับจดหมายแจ้งเตือนจาก Konami
  • บริษัทหาคนทำงาน ต้องแจ้งเตือนลูกค้าบริษัทเกม ให้ระวังการรับอดีตพนักงาน Konami เพราะอาจมีปัญหาทางกฎหมาย
  • Konami เคยบีบให้อดีตพนักงานที่ออกไปเปิดบริษัทเองต้องปิดกิจการ และกดดันองค์กรอื่นไม่ให้รับอดีตพนักงานเข้าทำงาน

กรณีที่น่าสนใจคือ Kojima Productions บริษัทใหม่ของ Kojima ยื่นเรื่องขอเข้ากลุ่ม ITS Kenpo ซึ่งเป็นกลุ่มประกันสุขภาพพนักงานสำหรับบริษัทเกมและบริษัทไอที แต่ใบสมัครถูกปฏิเสธ เพราะ Kimihiko Higashio ผู้บริหารของ Konami เป็นประธาน ITS Kenpo ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่กล้านำเสนอใบสมัครนี้ต่อประธาน

ผลลัพธ์ของนโยบายที่เข้มงวด ทำให้ Konami สูญเสียมือดีจำนวนไม่น้อย นอกจาก Kojima แล้วยังมี Naoki Maeda นักประพันธ์เพลงในเกม Dance Dance Revolution, Akari Uchida โปรดิวเซอร์ LovePlus, Minoboshi Taro นักวาดของ LovePlus และ Shinichi Hanamoto ผู้บริหารที่มีบทบาทในเกม Yu-Gi-Oh

อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการของ Konami ช่วงหลังกลับออกมาดีเยี่ยม เหตุผลสำคัญมาจากการปรับยุทธศาสตร์มาทำเกมลงสมาร์ทโฟน ซึ่งใช้ต้นทุนต่ำแต่ทำรายได้สูง โดยใช้คาแรกเตอร์ที่โด่งดังจากเกมคอนโซลมาช่วยทำตลาด

คนวงในของ Konami ระบุว่าจุดเปลี่ยนของบริษัทคือปี 2010 หลังเกมมือถือ Dragon Collection ทำรายได้สูงเกินคาด ส่งผลให้ท่านประธาน Kozuki หันมาทุ่มเทกับเกมสมาร์ทโฟน

ที่มา - Nikkei

Blognone Jobs Premium