Fitbit ได้เปิดตัวสายข้อมือเพื่อสุขภาพรุ่นล่าสุด Fitbit Alta HR ไปเมื่อต้นปี และเริ่มจำหน่ายเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้สินค้าก็มีจำหน่ายในไทยแล้ว โดยทาง Blognone ได้รับ Fitbit Alta HR นี้มาทดสอบกัน มาดูว่าสายรัดเพื่อสุขภาพรุ่นนี้น่าสนใจอย่างไรบ้าง
ก่อนอื่นต้องพูดถึงตำแหน่งของ Alta HR ก่อน โดย Fitbit นั้นสินค้าจะเน้นไปที่การเป็นแทร็กเกอร์ด้านสุขภาพ มีสินค้า 3 ระดับคือ (1) สายรัดข้อมือทั่วไป (2) สายรัดข้อมือ+ตรวจจับชีพจร และ (3) นาฬิกาอัจฉริยะ ซึ่งสำหรับ Alta HR นั้นอยู่ในกลุ่ม (2) ทำให้มีราคากลางๆ ในกลุ่ม Fitbit
เปิดกล่องดูของ
สิ่งที่มีมาในกล่องของ Fitbit Alta HR นั้นก็มินิมอลดีครับ ประกอบด้วย
เวลาชาร์จ Fitbit Alta HR ให้นำสายชาร์จที่มีลักษณะเป็นคลิป ชาร์จที่ใต้สายข้อมือ ให้ขั้วเชื่อมต่อกันเท่านี้ก็เรียบร้อย
ในการเริ่มต้นใช้งานนั้นให้โหลดแอพของ Fitbit ซึ่งรองรับระบบปฏิบัติการ iOS, Android และ Windows จากนั้นก็เชื่อมต่อกับ Alta HR ผ่าน Bluetooth ตามขั้นตอนในหน้าแอพได้ง่ายๆ เลย
ตัวสายรัดสวมใส่แบบนาฬิกาข้อมือทั่วไป จึงค่อนข้างแน่นหนาดี
ฟีเจอร์เด่นในการใช้งาน
แนวคิดของ Alta HR นั้นจะเน้นให้ผู้ใช้ต้องคอยควบคุมที่ตัวสายรัดข้อมือด้วยตนเองให้น้อยที่สุด แล้วให้หน้าที่การตรวจจับค่าต่างๆ เป็นไปโดยอัตโนมัติ และแอพจะประมวลผลค่าเหล่านั้นและแสดงออกมาโดยละเอียดอีกที ซึ่งข้อมูลที่มีการตรวจจับรวบรวมก็มี
การประมวลผลของแอพนั้นจะแสดงค่าในเชิงลึกมากขึ้น อาทิ
อย่างที่บอกว่า Alta HR นั้นไม่เน้นให้ผู้ใช้ต้องป้อนข้อมูลว่ากำลังจะนอน กำลังจะออกกำลังกาย (รุ่นก่อนหน้ามี) ตัวอุปกรณ์และแอพจะประเมินเองอัตโนมัติ ข้อมูลเหล่านี้สามารถดูได้ผ่านหน้าปัดของสายข้อมือโดยการเคาะสองทีเพื่อเรียกหน้าจอ จากนั้นเคาะแต่ละครั้งเพื่อเปลี่ยนหน้าเมนูต่างๆ (Interface นี้จะงงๆ ตอนแรก แต่สักพักก็ชิน)
การตรวจจับการนอนหลับนั้นไม่ต้องระบุว่ากำลังจะนอน ตัวเซนเซอร์จะประเมินเองแล้วสรุปผลในตอนเช้า ว่าช่วงการนอนหลับเราเป็นอย่างไร แบ่งเป็นโซน Awake, REM,
Light และ Deep
เช่นเดียวกับเซนเซอร์ตรวจจับการออกกำลังกาย ซึ่งประมวลผลร่วมกับจังหวะการเต้นหัวใจ และสรุประยะเวลาที่เราออกกำลังกายให้เลย โดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม หน้าสรุปจะแบ่งช่วงการเต้นเป็น 3 โซนทั้ง Fat Burn, Cardio และ Peak
เนื่องจากมีประเด็นค่อนข้างมากเกี่ยวกับความแม่นยำ ของการตรวจจับชีพจรในบรรดาสายรัดข้อมือทั้งหลาย จึงทดสอบโดยเทียบกับสายรัดอีกยี่ห้อ ได้ผลลัพธ์ออกมาใกล้เคียงกันมาก ก็น่าจะพอช่วยบอกความแม่นยำของ Alta HR ว่าทำได้ใกล้เคียงกับยี่ห้ออื่นเช่นกัน ไม่ได้ผิดเพี้ยนแต่อย่างใด
แพทเทิร์นชีพจรของอีกแอพ ที่ใกล้เคียงกัน
คุณสมบัติการเตือนของ Fitbit Alta HR นั้นมีหลากหลาย และครบครันในขนาดของมันดี โดยตัวเตือนเป็นระบบสั่น Haptic ประกอบด้วย
หน้าตาและการออกแบบ
จุดเด่นของ Alta HR ที่เหนือกว่า Fitbit รุ่นก่อนหน้า ก็คือความสวยงามดูดี คุณสมบัติที่ใส่มาเยอะ แต่ตัวเครื่องไม่ได้หนาตามเลย เป็นสายรัดเส้นเล็ก และมีตัวเลือกสีสันที่ทันสมัย อย่างตัวที่นำมานี้เป็นสี Coral ก็จะมีความชิคหน่อย เข้ากับเครื่องประดับอื่นบนข้อมือได้ดี น่าจะถูกใจสาวๆ (ส่วนหนุ่มๆ ก็มีสีแนวเข้มที่สุขุมเช่นกัน)
ถ้าพูดถึงเฉพาะสายสีสำหรับผู้หญิง ยังมีตัวเลือกถอดเปลี่ยนสาย อาทิ สี Fuchsia และ Soft Pink (ตัวนี้มีหน้าปัดแบบ Rose Gold ด้วย หรูไปอีก) ก็ถือว่า Alta HR นี้ ออกแบบทางเลือกมาจับตลาดผู้หญิงแบบจริงจังเลย ถึงแม้ตัวสายรัดจะบางลง แต่สิ่งที่ประทับใจมากคือแบตเตอรี่ซึ่งตามสเปกระบุว่าอยู่ได้ 7 วัน และจากการทดสอบก็ใช้งานได้ยาวๆ 7 วันสบาย
สเปกทั่วไป
คราวนี้มากันด้วยสเปกของ Alta HR ซึ่งถือว่าสเปกก็จัดให้มาเยอะทีเดียว เมื่อเทียบกับสายรัดข้อมือแนวนี้
สรุป
Fitbit Alta HR เป็นสายรัดข้อมือเน้นสุขภาพ ที่ไม่ได้จัดเต็มแบบสมาร์ทวอทช์จนต้องมีราคาแพง แต่ด้วยราคาระดับกลาง คุณสมบัติที่พัฒนาต่อเนื่องของ Fitbit ทำให้ Alta HR มีความลงตัวมากขึ้น ปรับปรุงข้อดีข้อเสียจากรุ่นก่อนหน้า เป็นสายรัดข้อมือที่ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน แต่เก็บสถิติละเอียดดี จึงน่าสนใจในบรรดารุ่นที่ราคาใกล้เคียงกัน แถมยังเน้นการออกแบบที่สวยงามมากขึ้น
ข้อดี
ข้อเสีย