หลังจากปัญหาต่างๆ ที่รุมเร้า Uber ก็ได้ประกาศโครงการ 180 Days of Change เพื่อผลักดันให้เห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะกับคนขับรถ Uber ซึ่งผู้บริหารใช้คำว่า เป็นกลุ่มคนที่มีบทบาทสำคัญกับบริษัท แต่ที่ผ่านมายังดูแลได้ไม่ดีพอ (ประกาศนี้ออกมาก่อนที่ซีอีโอ Travis Kalanick จะลาออก)
การเปลี่ยนแปลงแรกที่ออกมาคือการเพิ่มระบบทิป มีผลทันที โดยจะทดลองใน 3 เมืองก่อนคือ Seattle, Minneapolis และ Houston เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับผู้ขับรถ โดยปกติแล้วแท็กซี่ในอเมริกานั้นมีการจ่ายทิป แม้แต่บริการคู่แข่งอย่าง Lyft ก็ยังมีระบบทิป แต่ Uber เลือกไม่มีระบบทิปในตอนแรกเพื่อป้องกันการเลือกรับผู้โดยสาร โดยระบบทิปนี้จะเปิดใช้ทั่วอเมริกาภายในเดือนกรกฎาคม 2017
การเปลี่ยนแปลงอื่นก็เป็นเรื่องผลประโยชน์ของผู้ขับรถ อาทิ ลดระยะเวลาขั้นต่ำในการรอผู้โดยสารจาก 5 นาที เหลือ 2 นาที, ได้เงินค่ายกเลิกหากยกเลิกหลังจาก 2 นาที (เดิม 5 นาที) และอื่นๆ
ตัวแทน Lyft ยังให้ความเห็นต่อการที่ Uber เพิ่มระบบทิปว่า ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ขับรถ แม้จะช้ากว่า Lyft ถึง 1800 วันก็ตาม (Lyft เริ่มระบบทิปในปี 2012)