The New York Times รายงานเบื้องหลังการบีบ Travis Kalanick ออกจากตำแหน่งซีอีโอของ Uber ว่าซับซ้อนซ่อนเงื่อนอย่างมาก
เดิมทีนั้น Kalanick สร้างพันธมิตรในบริษัทไว้มากมาย ทั้งระดับบริหารและระดับบอร์ด โดยพันธมิตรคนสำคัญของเขาคือ Bill Gurley นักลงทุนจากบริษัท Benchmark Capital ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่รายหนึ่งของ Uber
ตอนแรกสถานะซีอีโอของ Kalanick ดูมั่นคงดี บอร์ดยังประกาศท่าทีสนับสนุนเขา แต่หลังปัญหารุมเร้าหลายยก บรรดาผู้บริหารระดับรองกดดันให้ Kalanick ถอยฉากไป บวกกับแม่ของ Kalanick เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในช่วงนี้พอดี ทำให้เขาเริ่มคิดหยุดพักงานชั่วคราว
แต่หลังจาก Kalanick ประกาศหยุดพักงานไม่มีกำหนด ในฉากหลัง เขายังทำงานต่อไป งานสำคัญของเขาคือกดดันให้ David Bonderman บอร์ดบริหารอีกคนที่มักขัดแย้งกับเขาลาออก โดยใช้กรณีที่ Bonderman คอมเมนต์เรื่องเหยียดผู้หญิงเป็นสาเหตุ ซึ่งเขาทำสำเร็จ
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ทำให้ Bill Gurley ที่เป็นพันธมิตรอันยาวนานของ Kalanick มองว่า Uber ไม่สามารถปฏิรูปได้ถ้าหาก Kalanick ยังอยู่ เขาจึงเปิดเจรจากับบริษัทลงทุนรายอื่นอีก 4 ราย ได้แก่ First Round Capital, Lowercase Capital, Menlo Ventures, Fidelity Investments จนได้ข้อสรุป 4 ข้อ หนึ่งในนั้นคือ Kalanick ต้องลาออกทันที
จากนั้น Gurley ส่งหุ้นส่วนของเขาสองคนคือ Matt Cohler และ Peter Fenton เป็นตัวแทนไปพบ Kalanick ซึ่งอยู่ที่ชิคาโกเพื่อไปสัมภาษณ์หาตัวคนมาเป็นซีโอโอตามที่เคยประกาศไว้ สิ่งที่ Cohler และ Fenton ต้องการคือให้ Kalanick ลาออกในวันนั้น
เมื่อทราบเรื่อง Kalanick โทรหา Arianna Huffington บอร์ดอีกคนหนึ่งเพื่อขอคำปรึกษา โดย Huffington มองว่าข้อเสนอเหล่านี้น่าพิจารณา ในบ่ายวันนั้น Kalanick จึงเจรจากับ Cohler และ Fenton เพื่อหาทางออกที่เหมาะสมที่สุดกับ Uber
และหลังการปิดห้องคุยกันนานหลายชั่วโมง สุดท้าย Kalanick จึงตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งดังที่เราทราบกัน (ทั้งหมดนี้คือข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการที่ The New York Times รวบรวมมา)
ตัวละครหลัก 3 คนจากฝั่ง Benchmark Capital
ที่มา - The New York Times