ก่อนหน้านี้เราไม่เห็นข่าวคราวของ Tesla เกี่ยวกับการตั้งโรงงานผลิตรถยนต์นอกสหรัฐอเมริกามากนัก จะมีก็แต่อินเดียที่เคยยื่นข้อเสนอให้ Tesla ไปเปิดโรงงานที่ประเทศตัวเอง ล่าสุดโฆษกของ Tesla เปิดเผยแล้วว่าบริษัทฯ กำลังเจรจากับหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Municipal Government) เพื่อตั้งโรงงานในจีน
โฆษกของ Tesla ระบุว่าบริษัทฯ กำลังเจรจากับเมืองเซี่ยงไฮ้และศึกษาความเป็นไปได้ที่จะตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ในจีน เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดจีน รวมถึงดูความเป็นไปได้ที่จะตั้งโรงงานในส่วนอื่นของโลกเช่นกัน ซึ่งในปีที่แล้วรายได้ถึง 15% ของ Tesla มาจากตลาดจีน
อย่างไรก็ตาม หนทางของ Tesla ที่จะตั้งโรงงานในจีนก็ไม่ง่ายนัก เพราะกฎหมายจีนกำหนดไว้ว่าโปรเจ็คลักษณะนี้ต้องมาในรูปแบบการร่วมทุนกับบริษัทจีนเท่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ Chevrolet, Ford และ Volkswagen ทำอยู่ก่อนแล้ว นอกจากนี้ General Motors และ Volkswagen ก็เป็นพาร์ทเนอร์กับ SAIC Motor Corporation ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของจีนอยู่ก่อนแล้ว จึงไม่แน่ชัดว่า Tesla จะเข้าไปเจรจาด้วยหรือไม่
อีกประเด็นหนึ่งคือเร็วๆ นี้ รัฐบาลจีนก็เพิ่งประกาศไม่ออกใบอนุญาตการผลิตรถยนต์เพิ่มเติมแล้ว หากบริษัทไหนสนใจผลิตรถยนต์ก็ต้องไปเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทที่มีใบอนุญาตอยู่ก่อน รวมถึงเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จีนก็ได้ออกกฎหมายว่าบริษัทต่างชาติที่มาตั้งโรงงานในจีนต้องถ่ายทอดเทคโนโลยีให้จีนด้วย ซึ่ง Tesla ก็ต้องชั่งน้ำหนักดูว่าความซับซ้อนทั้งหมดนี้คุ้มค่ากับต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง และไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า 25% หรือไม่
ปัจจุบัน Tesla Model S ขายในจีนที่ราคาเริ่มต้น 723,500 หยวน (ราว 3.59 ล้านบาท) ขณะที่ในสหรัฐฯ เริ่มต้นที่ 70,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.38 ล้านบาท) ก่อนหักส่วนลดจากรัฐบาล
ที่มา - The New York Times