รีวิว Samsung QLED TV ที่สุดของความงามบนหน้าจอและดีไซน์

by advertorial
26 June 2017 - 10:25

หน้าจอบนทีวี เป็นเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาและเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง อย่างทีวีอย่างของซัมซุง ที่ใช้แพแนล OLED มานานก็กำลังจะหันไปใช้เทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า QLED เพื่อแก้ปัญหาข้อจำกัดของ OLED ในการแสดงผลด้านสีบนทีวีจอใหญ่ รวมไปถึงปัญหา burn-in ที่ทำให้สีซีดลงหลังใช้งานไปนานๆ

อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีทุกวันนี้ ไม่ว่าจะมีความล้ำหน้าแค่ไหน แต่หนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้คือความสวยงามและความโดดเด่นด้านดีไซน์ ซัมซุงได้จับรวมทั้งความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีและความสวยงามของดีไซน์ เอามารวมไว้ใน Samsung QLED TV สมาร์ททีวีตัวใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไม่ไปนานนี้และถูกวางตัวเอาไว้เป็นทีวีระดับพรีเมียม หรูหรา

ดีไซน์ที่หรูหรา พร้อมบอกลาสายไฟที่ยุ่งเหยิงด้วย Invisible Connection

ความโดดเด่นภายนอกของ Samsung QLED TV ที่เห็นได้ชัดคือดีไซน์ของตัวเครื่อง ที่ถูกออกแบบมาในธีม Metal ให้มีความเรียบหรูและสวยงาม อีกทั้งจุดเด่นที่ความบางของตัวเครื่อง และขอบหน้าจอ (bezel) ทั้ง 4 ด้านที่บางจนแทบจะไม่มีขอบ

เรื่องการจัดการพื้นที่ด้านหลังทีวีก็ยังคงอยู่ในคอนเซปต์เรียบง่ายและสวยงาม เนื่องจาก QLED TV มาพร้อมกับสายไฟเบอร์ออพติกบางใสเพียงเส้นเดียว ใช้แทนการต่อสายเคเบิลหลายสายที่ยุ่งเหยิงแบบเดิมๆ โดยสายไฟเบอร์ออพติกเส้นนี้ถูกออกแบบมาให้ลากผ่านขาตั้งทีวีด้วยแนวคิด Invisible Connection มาเชื่อมต่อกับกล่อง One Connect Box ที่รองรับพอร์ทต่างๆ สำหรับทีวีอีกต่อหนึ่ง เราเพียงแค่วางกล่อง One Connect ไว้อีกตำแหน่งที่เหมาะสมกว่า ก็ช่วยเพิ่มความเรียบร้อยรอบๆ ทีวีแล้ว


แนวคิด Invisible Connection

นอกจากนี้ตัวทีวีเองยังถูกออกแบบมาให้ติดตั้งบนผนังได้แนบชิด จนแทบไม่เหลือที่ว่างระหว่างทีวีและผนังเลย ขณะที่ขาตั้งมีให้เลือกถึง 2 แบบคือ Studio Stand ลักษณะเหมือนขาตั้งเฟรมรูปภาพและ Gravity Stand ที่ทำให้ทีวีสามารถหมุนได้ 360 องศา

ซ้าย: Studio Stand ขวา: Gravity Stand

ความงามของตัวเครื่องต้องคู่กับความงามของหน้าจอ

QLED TV มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ ลิขสิทธิ์เฉพาะของซัมซุงที่เรียกว่า Quantum Dot ที่สามารถแสดงผลเรื่องสีได้สวยงามและเหมือนจริงมากที่สุดถึง 100% เหมือนชมภาพยนตร์จากกล้องถ่ายโดยตรง รวมถึงสามารถปรับค่าความสว่างได้สูงถึง 1500 นิต (HDR 1500) แต่ค่าสีของภาพก็ยังคงไม่ผิดเพี้ยน ไม่ว่าจะฉากมืดหรือฉากสว่าง

ในส่วนของกระจกหน้าจอ ถูกออกแบบมาด้วยเทคโนโลยี Moth Eye Structures ที่มีลักษณะเหมือนปุ่มเล็กๆ ช่วยซับแสงและลดการสะท้อนของแสงลง ทำให้การแสดงผลสีดำเข้มขึ้น และช่วยลดแสงสะท้อนต่อดวงตาได้ค่อนข้างดี ทำให้ไม่ว่าจะดูในห้องมืดหรือห้องที่สว่างจ้า ก็สามารถดูได้โดยไม่มีแสงสะท้อนกวนตา รวมไปถึงช่วยให้การดูทีวี ไม่ว่าจะจากมุมไหน ก็ยังคงเห็นภาพและสีคมชัด สมจริงอยู่เหมือนนั่งตรงหน้าจอ

One Remote to Rule Them All

ความสามารถสุดท้ายใน QLED TV ที่ช่วยให้การดูทีวีง่ายขึ้นอีกระดับ คือ One Remone ที่นอกจากตัวทีวีเอง ยังสามารถควบคุมทุกกล่อง ทุกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้ด้วยรีโมทอันเดียว อย่างเครื่องเล่น Blu-Ray และกล่อง Set-Top Box เป็นต้น ช่วยให้การดูทีวีง่ายขึ้น ไม่ต้องพะวงกับการหารีโมท หรือเปลี่ยนรีโมททุกครั้่งที่เปลี่ยนเครื่องเล่น

ตัวทีวีรันด้วยระบบปฏิบัติการ Tizen ทำให้สามารถสั่งงานด้วยเสียงจากรีโมทได้โดยตรง ซึ่งรองรับคำสั่งต่างๆ อาทิ เปิดเพลง เปิดหนังบน Netflix หรือ เปิด YouTube ช่วยให้ชมรายการหรือภาพยนตร์ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

ทีวีเองยังสามารถตรวจจับและแยกแยะอุปกรณ์ต่างๆ ที่เชื่อมต่อผ่านกล่อง One Connect Box ให้อัตโนมัติด้วย อาทิ เครื่องเล่น Blu-Ray, เกมคอนโซล หรือ Set-Top Box อำนวยความสะดวกในการตั้งค่าอุปกรณ์ได้เป็นอย่างดี

สรุป

เป็นมิติใหม่ของสมาร์ททีวีระดับบน QLED TV ที่เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างความสวยงามของเทคโนโลยีหน้าจอ และความสวยงามของดีไซน์ ความบางและการจัดการสายเคเบิล พร้อมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ทีวี ที่เต็มไปด้วยคอนเทนท์ที่หลากหลายและควบคุมได้ง่าย

QLED TV วางจำหน่ายด้วยหน้าจอสองแบบ คือ หน้าจอแบนและหน้าจอโค้ง มีทั้งหมด 3 รุ่น

  • รุ่น Q9F มีขนาด 88 นิ้ว และ 65 นิ้ว (จอแบน) รองรับค่าสว่างและสีภาพหรือ HDR ได้สูงสุด 2,000 นิต
  • รุ่น Q8C มีขนาด 55, 65, 75 นิ้ว (จอโค้ง) รองรับค่าสว่างและสีภาพหรือ HDR ได้สูงสุด 1,500 นิต
  • รุ่น Q7F มีขนาด 75, 65, 55 นิ้ว (จอแบน) รองรับค่าสว่างและสีภาพหรือ HDR ได้สูงสุด 1,500 นิต
Blognone Jobs Premium