เอกสารจาก The Linux Foundation ได้ทำการประมาณเงินที่ต้องใช้ในการพัฒนา Fedora 9 ด้วยวิธี SLOC ค่าที่ได้คือ 10,784,484,309 ดอลลาร์สหรัฐ หากดูเฉพาะตัว Kernel อย่างเดียว ประมาณไว้ว่าต้องใช้เงินในการพัฒนาถึง 1,372,340,206 ดอลลาร์สหรัฐ
วิธีการ Source lines of code (SLOC) เป็นวิธีหนึ่งที่ใช้ในประเมินขนาดของซอฟต์แวร์ วิธีการก็คือเอาซอสโค้ดมานับจำนวนบรรทัด จากนั้นก็จะเอาไปหาเวลาที่นักพัฒนาต้องใช้ในการพัฒนาโค้ดเหล่านั้น ในที่นี้ใช้ COnstructive COst MOdel (COCOMO) สำหรับการประมาณมูลค่าก็นำรายได้เฉลี่ยของนักพัฒนาเข้าไปคำนวณ
Fedora 9 นั้นใช้โค้ด 204,500,946 บรรทัด เวลาที่ประมาณได้ก็คือต้องใช้นักพัฒนาจำนวน 59,389.53 คน พัฒนาเป็นเวลาหนึ่งปี คูณด้วยค่าแรงเฉลี่ยของนักพัฒนาในสหรัฐฯ คือ 75,662.08 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี ถ้าดูที่ Kernel (Linux 2.6.25) อย่างเดียวนับบรรทัดได้ 6,772,902 บรรทัด คิดเป็นจำนวนนักพัฒนาต่อปีคือ 7557.4 คน
นี่เป็นเพียงวิธีหนึ่งในความพยายามที่จะประมาณค่าของ Linux เท่านั้น มีข้อจำกัดและปัจจัยอีกจำนวนมากที่อาจทำให้ค่าที่ได้ไม่ใกล้เคียงความจริง บิลล์ เกตส์ บอกว่า "การวัดความคืบหน้าในการพัฒนาโปรแกรมด้วยการนับจำนวนบรรทัดก็เหมือนกับการวัดความคืบหน้าในการสร้างเครื่องบินด้วยการชั่งน้ำหนัก"
ลองดูจำนวนบรรทัดของตัวอื่นๆ กันบ้าง Windows NT 3.1 ประมาณ 4-5 ล้านบรรทัด Windows XP ประมาณ 40 ล้านบรรทัด ส่วน Mac OS X 10.4 ประมาณ 86 ล้านบรรทัด OpenOffice.org ประมาณ 10 ล้านบรรทัด
ที่มา - iTWire
เอกสารต้นฉบับ - Estimating the Total Development Cost of a Linux Distribution