ภารกิจ True Money กับการปรับโลกการจ่ายเงินสู่โลกออนไลน์ ตั้งแต่ซื้ออินเทอร์เน็ตไปจนถึงการจ่ายร้านค้า

การให้บริการกระเป๋าเงินดิจิตอลในบ้านเราได้รับความสนใจบ้านเราสูงขึ้นมากในช่วงปีที่ผ่านมา จากบริการที่แข่งขันขึ้นอย่างหลากหลายทั้งผู้ให้บริการที่เป็นธนาคารและผู้ให้บริการที่ไม่ใช่ธนาคาร บริการ True Money เองก็เป็นผู้ให้บริการที่ดำเนินการมายาวนานและมีลูกค้าที่ใช้งานอยู่ในระบบปัจจุบันว่าสองล้านราย ทาง Blognone ก็มีโอกาสได้พูดคุยกับผู้บริหารของ True Money ถึงภารกิจการปรับสังคมไทยเดินหน้าไปสู่สังคมเงินดิจิตอล

การใช้เงินกระเป๋าเงินดิจิตอลในไทยนั้นเริ่มได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลัง โดยเฉพาะในกลุ่มนักเรียนนักศึกษาที่คุ้นชินกับการซื้อสินค้าออนไลน์ แต่หลายคนไม่มีบัตรเครดิต หรือแม้แต่บริการธนาคารออนไลน์ ทำให้บริการกระเป๋าเงินดิจิตอลกลายเป็นทางเลือกที่สะดวกที่สุด เพราะสามารถซื้อสินค้าออนไลน์เช่นเกมหรือไอเท็มในเกมได้เช่นเดียวกับบัตรเครดิต

แต่เรื่องที่น่าแปลกใจอย่างหนึ่งคือแม้คนจำนวนมากจะคุ้นชินกับการซื้อสินค้าออนไลน์และจ่ายเงินผ่านแอปแล้วก็ตาม แต่ทาง Ascend พบว่าผู้ใช้โทรศัพท์ถึง 96% หรือ 38 ล้านเลขหมาย มักเติมอินเทอร์เน็ตผ่าน USSD ดั้งเดิมแทนที่จะเป็นบริการออนไลน์หรือบริการผ่านเว็บอื่นๆ

การใช้ USSD หรือหมายเลขคำสั่งโดยตรงนั้นโดยทั่วไปก็ทำงานได้ดี แต่หลายครั้งผู้ใช้ก็เสียโอกาสในการรับรู้โปรโมชั่นใหม่ๆ หลายครั้งเติมเงินด้วยโปรโมชั่นเดิมอยู่นานพอมาทราบภายหลังว่ามีโปรโมชั่นใหม่กลายเป็นไม่พอใจผู้ให้บริการไป

ภารกิจหนึ่งของ True Money จึงเป็นการโน้มน้าวให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือที่คุันชินกับบริการออนไลน์อยู่แล้วหันมาซื้อโปรโมชั่นผ่านแอป True Money ที่สื่อสารกับผู้ใช้ได้ง่ายกว่าจากความยืดหยุ่นของหน้าจอแอป

การปรับพฤติกรรมการใช้งานอาจจะเป็นเรื่องที่ลำบากสำหรับหลายๆ คน งานนี้ทาง True Money ก็เชิญชวนให้ผู้ใช้ปรับไปซื้อแพ็กเกจผ่านแอปด้วยการทำโปรโมชั่นซื้อ 5 คืน 1 เหมือนกับได้คืนเงิน 20% สำหรับคนที่เติมอินเทอร์เน็ตเรื่อยๆ อยู่แล้ว หรือโปรโมชั่นอินเทอร์เน็ตไม่ลดความเร็ว 4 Mbps 7 วัน ก็ยังมีขายในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด

ในแง่ความสะดวกในการเติมเงินเข้า Wallet ในช่วงหลังก็มีช่องทางเพิ่มขึ้นอย่างมาก ช่องทางที่ไม่มีค่าธรรมเนียม เพิ่มขึ้นทั้ง 7-11, ตู้เอทีเอ็ม, หรือธนาคารออนไลน์, โดยเฉพาะตู้ True Money เองที่ไม่มีขั้นต่ำในการเติมเงิน เวลามีเหรียญเหลือก็สามารถนำไปเติมเงินไว้ซื้อของภายหลังได้อย่างสะดวกขึ้น ในอนาคต True Money เตรียมจะรองรับการผูกบัตรเครดิต ทำให้เราสามารถเลือกจ่ายเงินค่าสินค้าต่างๆ ผ่านบัตรที่เรามีอยู่แล้วได้ทันทีอีกช่องทาง

แอปเวอร์ชั่นใหม่ของ True Wallet (Google Play, iTunes) เน้นการใช้งานแทนเงินสดมากขึ้น สามารถใช้ QR ในการโอนเงินให้กันเพิ่มเติมจากการใส่หมายเลขโทรศัพท์เพื่อโอนเงินในเวอร์ชั่นเดิมแล้ว ทำให้เราสามารถโอนเงินหากันได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะในกรณีที่เจอกันตรงหน้าแต่ไม่รู้หมายเลขหรือเซฟหมายเลขโทรศัพท์ไว้ในสมุดโทรศัพท์มาก่อน

ถัดจากการเชิญชวนผู้ใช้ให้หันมาใช้กระเป๋าเงินดิจิตอลกันมากขึ้น ทางยังเตรียมทำให้การใช้งานทำได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น จากการประกาศเพิ่มจุดรับจ่ายกับ Alipay โดยมีเป้าหมายจะให้ถึง 100,000 จุด โครงการนี้เองก็มีแนวทางว่าจะทำให้จุดรับจ่ายสามารถรับได้ทั้ง Alipay และ True Money ในอนาคตอันใกล้

ในอนาคตเมื่อทุกอย่างสำเร็จตามที่วางไว้ สักวันหนึ่งเราก็อาจจะไม่ต้องพกเงินสดออกจากบ้านกันแล้วจริงๆ