Foxconn เตรียมหาลู่ทางใหม่ สร้างแบรนด์ตัวเอง ร่วมงานบริษัทอื่นที่ได้กำไรเหนือกว่า Apple

by Porplaa
11 July 2017 - 00:15

บริษัท Foxconn เริ่มมีแนวคิดร่วมงานกับบริษัทอื่นบ้างแล้ว หลังจากร่วมมือกับ Apple มานาน และมีแนวโน้มจะสร้างแบรนด์ของตัวเองด้วย เมื่อปีที่แล้วเพิ่งจะซื้อ Sharp เพื่อผลิตหน้าจอ iPad และ iPhone ให้ Apple และพบว่ากำไรสูงมาก

Foxconn มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ไต้หวัน แต่มีโรงงานผลิตหลายแห่งในจีน และยังรวมสำนักงานใหญ่ของ Sharp ที่ญี่ปุ่นด้วย


ภาพจาก Foxconn

แหล่งผลิต iPhone หลักอยู่ที่เมือง Zhengzhou มณฑล Henan เป็นแหล่งที่คนตั้งฉายาว่าเป็นเมือง iPhone มีพนักงานที่เป็นสายการผลิตอยู่ 3.5 แสนราย สามารถผลิต iPhone ได้ถึง 5 แสนเครื่องต่อวัน ในปี 2016 คาดว่ารายได้กว่า 70% มาจากมูลค่าการค้าระหว่างประเทศจากที่นี่ที่ทำได้ถึง 471.47 พันล้านหยวนหรือ 6.93 หมื่นล้านเหรียญดอลลาร์

Foxconn เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ที่สุดของโลก มีพนักงานกว่า 7 แสนราย ลดจากเมื่อก่อนที่มีถึง 1 ล้านราย สามารถขาย iPhone ได้ถึง 210 ล้านเครื่องต่อปี อย่างไรก็ตาม Foxconn ยังมีปัญหาเรื่องการใช้งานคนงานหนักเกินไป จนเคยมีข่าวฆ่าตัวตายมาแล้ว


ภาพจาก Foxconn

นาย Terry Gou ประธาน Foxconn อพยพมาอยู่ไต้หวันในช่วงปี 1949 ที่มีการปฏิวัติประเทศจีน เริ่มทำธุรกิจครั้งแรกในช่วงปี 1974 เริ่มจากอุตสาหกรรมพลาสติกส่วนประกอบ เช่น ปุ่มกดบนทีวีสมัยก่อน เครื่องเกมคอนโซล Atari จนกระทั่งช่วงปลายทศวรรษ 1980 เหมือนได้รับชัยชนะครั้งใหญ่จากลูกค้าที่ออเดอร์จำนวนมาก จนนำไปสู่การตั้งโรงงานแห่งแรกที่ Longhua เมือง Shenzhen และได้ทำสัญญากับ Apple ครั้งแรกในปี 1994 จากนั้น Foxconn ก็กลายเป็นหุ้นส่วนกับ Apple ที่ผลิตอุปกรณ์และชิ้นส่วนให้ Apple แต่ได้กำไรต่อหน่วยน้อยมาก


ภาพจาก Wikipedia

เมื่อปลายเดือนเมษายน ประธาน Gou มีโอกาสพบปะกับประธานาธิบดีทรัมป์ เขาเตรียมจะเปิดโรงงานผลิตเพิ่มในอเมริกาเพื่อช่วยแก้ปัญหาคนว่างงานราวหมื่นคน แต่ยังไม่เปิดเผยว่าเป็นที่ใด คาดว่าจะลงทุนกว่าหมื่นล้าน

ตอนนี้ประธาน Gou เริ่มมีแนวคิดผลิตสินค้าเป็นแบรนด์ของตัวเองแล้ว เพราะรายได้จากการผลิตชิ้นส่วนจากหน้าจอและชิปนั้นได้กำไรดี แต่ญี่ปุ่นก็พยายามกีดกันไม่ให้จีนเข้ามาประมูลเพื่อทำธุรกิจชิปของ Toshiba เพราะกลัวความลับในการผลิตเทคโนโลยีจะรั่วไหล

Foxconn ยังเตรียมผลักดัน Essential ของ Andy Rubin และแบรนด์ InFocus ที่เน้นทำตลาดไต้หวัน และยังเคยระบุว่า ทั้ง mobile device, IoT, Big Data, Cloud, Industry 4.0, หุ่นยนต์ และ เทคโนโลยีทางทีวีทั้งหลายจะขยายตัวอย่างมาก

อย่างไรก็ตามเส้นทางแห่งอนาคตที่ Gou มองไว้ยังไม่ได้สวยหรูตามคาด เพราะหาคนสืบทอดต่อยาก เนื่องจากลูกๆ ไม่ได้ให้ความสนใจ ส่วนที่อาจจะสานต่อได้ก็ยังเด็กเกินไป เรื่องนี้ Gou ยังไม่เปิดเผย

ที่มา - Asia Nikkei

Blognone Jobs Premium