ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาบริษัทต่างๆ พากันหาโอกาสที่จะปรับปรุงการทำงานหรือพัฒนาบริการด้วยการใช้ข้อมูลมาค้นหาแนวทางใหม่ๆ โดยเหล่า Data Scientist ที่มีความสามารถในการสกัดเอาความรู้ออกมาจากข้อมูลจำนวนมากที่มีอยู่ในองค์กรได้ ความสำเร็จในการใช้ข้อมูลเหล่านี้ทำให้งานสาย Data Scientist กลายเป็นงานที่ร้อนแรงที่สุดในปี 2017 จากการจัดอันดับโดย CompTIA และ Glassdoor
เว็บจัดหางานระดับโลกอย่าง Glassdoor ระบุว่างาน Data Scientist เป็นงานที่ดีที่สุดในสหรัฐฯ จากรายได้เฉลี่ยที่สูง, ความต้องการมีจำนวนมากกว่าอันดับสองอย่าง DevOps Engineer เกือบเท่าตัว และผู้ทำงานก็มีความพึงพอใจกับงานที่ทำมากกว่า
โครงการ Data Café Thailand เป็นโครงการความร่วมมือระหว่าง บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC และคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อการพัฒนาและวิจัยด้าน Data Science ไปพร้อมกับการผลิตบุคลากร Data Scientist เพื่อเข้าทำงานในวงการไอทีไทย และโครงการ Data Café Fellowship ครั้งนี้ก็เป็นโครงการแรกสำหรับการสร้างบุคลากร
โครงการเป็นการอบรมระยะยาวถึงสามเดือนเต็ม ตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงเดือนพฤศจิกายนนี้ แม้จะยาวนานแต่ก็เป็นการอบรมนอกเวลางาน ทั้งช่วงเย็นและวันหยุด ทำให้ทุกคนมีโอกาสเข้าร่วมโครงการนี้ได้
ข้อจำกัดของการเรียนและการฝึกอบรมในสายงาน Data Scientist คือการฝึกมักเป็นข้อมูลขนาดเล็กเพื่อฝึกใช้งานเครื่องมือเฉพาะทางบางอย่างเท่านั้น ทำให้คนที่ฝึกอบรมไปมักไม่ได้เห็นภาพของข้อมูลจริงที่มีขนาดใหญ่ มีข้อจำกัด และความไม่สมบูรณ์ของข้อมูลในรูปแบบต่างๆ โครงการ Data Café Fellowship มุ่งแก้ไขปัญหานี้โดยเตรียมความร่วมมือกับองค์กรต่างๆ ให้ผู้ที่ผ่านการทดสอบ สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ได้รับอนุญาต เพื่อหาความรู้และคำแนะนำต่างๆ ที่เกิดประโยชน์ได้จริง
สนใจสมัครเข้าโครงการ Data Café Fellowship ส่งประวัติมาที่อีเมล fellowship@datacafethailand.com ได้ถึงวันที่ 21 กรกฎาคมนี้ หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ MFEC และ LINE: @mfec