เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา SAP ผู้ผลิตซอฟต์แวร์และโซลูชั่นสำหรับองค์จัดงาน SAP Solution Summit 2017 แสดงโซลูชั่นสำหรับการทำ Digital Tranformation และประโยชน์ของคลาวด์โซลูชั่นต่อภาคธุรกิจทุกขนาดในไทยจากพฤติกรรมผู้ใช้งานเปลี่ยนไป การเข้าถึงข้อมูลต้องเข้าถึงได้ทุกที่และทุกอุปกรณ์ ความสำคัญของการกักเก็บข้อมูลผ่านเซิร์ฟเวอร์ไม่เพียงพอต่อการจัดการธุรกิจอีกต่อไป พร้อมกับย้ำถึงความสำคัญของโซลูชั่น รวมทั้งประโยชน์ที่ภาคธุรกิจจะได้รับจากคลาวด์โซลูชั่น ตอนนี้ทาง Blognone มีโอกาสได้พูดคุยกับทาง SAP ว่ามีมุมมองต่อตลาดเทคโนโลยีสำหรับองค์กรอย่างไร
ภาพจาก Facebook SAP
คุณนพดล เจริญทอง Director, General Business จาก SAP ประเทศไทย ระบุว่า Core Digital ของ SAP สามารถรองรับการทำงานได้ 25 กลุ่มอุตสาหกรรม เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ IoT ให้เข้ามาทำงานร่วมกันได้ในทุกแอพพลิเคชั่น ตัวอย่างเช่น หากลูกค้าต้องการการจัดการทรัพยากรบุคคลให้ดีขึ้น SAP ก็มีโซลูชั่นบนคลาวด์ที่จัดการเรื่องนี้โดยเฉพาะให้ลูกค้า หรือหากลูกค้าของ SAP ต้องการโซลูชั่นจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) ทาง SAP ก็มีโซลูชั่น Hybris ที่เป็น Cloud for Customer หรือถ้าลูกค้าต้องการปรับปรุงระบบจัดซื้อ SAP ก็มี Ariba จึงสามารถพูดได้ว่า ความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของ SAP ในวันนี้คือเป็นคลาวด์เต็มรูปแบบแล้ว
และเมื่อความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น จึงจำเป็นต้องมียุทธศาสตร์รองรับ คุณนพดลระบุสามยุทธศาสตร์ที่สำคัญของ SAP คือ
SAP มีโซลูชั่นสำหรับหลากหลายอุตสาหกรรม ผู้เข้าร่วมงาน SAP Solution Summit ที่ส่วนใหญ่เป็นบุคลากรด้านไอทีจากหลายบริษัทหลายอุตสาหกรรมจะได้สัมผัสถึงประโยชน์ของคลาวด์โซลูชั่นอย่างละเอียด โดยโซลูชั่นคลาวด์ที่ SAP นำมาแสดงในงานคือ
SAP Hybris Cloud เป็นโซลูชั่นจัดการซื้อขายและการบริการทั้งในธุรกิจใหญ่ อีคอมเมิร์ซ และธุรกิจรายย่อย ช่วยเติมเต็มการขาย การสื่อสารลูกค้าให้ลูกค้ามี loyalty กับแบรนด์มากขึ้น
Hybris รองรับการสื่อสารกับลูกค้าผ่านหลายช่องทาง (omni-channel) เช่น ในกรณีที่บริษัทมีช่องทางสื่อสารลูกค้าหลายช่องทาง ทั้งอีเมล โซเชียลมีเดียต่างๆ ระบบจะรวบการสื่อสารทั้งหมดมาอยู่ในแดชบอร์ดเดียว บริษัทจะตอบปัญหาลูกค้าผ่านแดชบอร์ดนี้ได้ นอกจากรวบการสื่อสารแล้ว ระบบยังวิเคราะห์ข้อมูลและพฤติกรรมลูกค้าผ่านข้อความของลูกค้าด้วย
SAP Hybris มีฟังก์ชั่นเก็บข้อมูลลูกค้า แบ่งลูกค้าออกเป็นกลุ่ม เช่น อายุ เพศ ประเภทสินค้าที่ลูกค้าสนใจ ให้บริษัทวางแผนกลยุทธ์และโปรโมทสินค้าได้ตรงตามเป้าหมาย
SAP SuccessFactors เป็นโซลูชั่นแก้ปัญหาการจัดหาบุคลากรโดยเฉพาะในองค์กรใหญ่ SAP ระบุว่า การจัดหาบุคลากรแบบเก่า (passive strategy) ที่องค์กรนั่งรอให้มีคนส่งเรซูเม่เข้ามาทางเว็บไซต์ แล้วดำเนินตามกระบวนการจนถึงการนัดสัมภาษณ์ เป็นวิธีที่กินระยะเวลานานและสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย
ตัวอย่างของการใช้ SuccessFactors ทาง SAP ยกตัวอย่างองค์กรที่ต้องการจ้างงาน 300 ตำแหน่ง เดิมอาจจะต้องใช้งบประมาณถึง 1.6 ล้านดอลลาร์ เฉลี่ย 5,300 ดอลลาร์ต่อตำแหน่ง และระยะเวลานานถึง 12 สัปดาห์ แต่เมื่อมาใช้ SuccessFactors แล้วสามารถลดเวลาเหลือเพียง 6 สัปดาห์ ต้นทุนต่อตำแหน่งเหลือเพียง 2,000 ดอลลาร์เท่านั้น
SAP SuccessFactors เป็นโซลูชั่นคลาวด์ มีฟีเจอร์เชื่อมระบบกับ Google, LinkedIn, Facebook สามารถแปลงข้อความจากเรซูเม่จากผู้สมัครเป็นโปรแกรมกรอกลงระบบของ SAP ในรูปแบบ quick content อัตโนมัติ ลดเวลาการกรองคำถามเบื้องต้น รองรับเซ็นสัญญาผ่านกระดาษดิจิทัล กดดูข้อมูลผู้สมัครได้ผ่านคลาวด์ไม่ต้องดาวน์โหลด
SAP Leonardo คือบริการคลาวด์สำหรับอุปกรณ์ IoT ให้องค์กรต่างๆ นำไปต่อยอดและตอบสนองการทำงานทางธุรกิจได้เลย
ระบบหลังบ้านของ Leonardo คือโซลูชั่นของ SAP ทั้งหมด ทำงานทั้ง on premise และบนคลาวด์ แก้ปัญหาการเคลื่อนย้ายข้อมูล ลูกค้าเพิ่ม KPI ให้เชื่อมต่อกันได้ หรือเขียนแอพให้ระบบงานคุยกันได้ ในกรณีที่ลูกค้ามีฐานข้อมูลและโซลูชั่น on premise อยู่แล้ว
ตัวอย่าง WeissBeerger ผู้ผลิตเบียร์ ใช้อุปกรณ์ติดตั้งที่สายถ่ายเครื่องดื่ม เพื่อจับสถิติยอดขายเครื่องดื่มในแต่ละสาขา เพื่อนำข้อมูลไปใช้โปรโมทแคมเปญกระตุ้นยอดขาย หรือ รถบัส Keifuku bus วิ่งให้บริการผู้โดยสาร ใช้อุปกรณ์ติดที่เสื้อคนขับ ตรวจจับการเต้นหัวใจป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนน เป็นต้น
SAP มีโซลูชั่นจัดการการเดินทาง โดยพาร์ทเนอร์ของ SAP ที่พัฒนาระบบการจัดการการเดินทางคือ Concur
บริษัทระบุว่าการจัดการค่าใช้จ่ายการเดินทางมักจะสิ้นเปลืองและควบคุมได้ยาก รวมทั้งมีค่าใช้จ่ายที่มองไม่เห็นมากมาย SAP ระบุว่าโซลูชั่นนี้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายการเดินทาง 1.4 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม 46% ของลูกค้า SAP ที่ใช้ T/E (Travel and Expenses Spend Management ) สามารถรายงานค่าใช้จ่ายการเดินทางได้ถูกต้อง และ 73% ของลูกค้าสนใจอัพเดทระบบเป็นเวอร์ชั่นต่อไปภายในหกเดือนข้างหน้า
T/E เชื่อมต่อข้อมูลการใช้จ่ายการเดินทางทุกอย่างในระบบเดียว เข้าใจการใช้จ่ายมากขึ้น ตัวระบบที่เชื่อมต่อคลาวด์ ช่วยให้เข้าถึงแพลตฟอร์มจองตั๋วเดินทางจากสายการบินต่างๆ และเข้าถึงได้ในทุกอุปกรณ์ทุกสถานที่ เพิ่มความคล่องตัวให้พนักงานที่จัดการจองตั๋ว นอกจากนี้ยังลดค่าธรรมเนียมได้มากกว่าการจองตั๋วแบบปกติ
นอกจากค่าใช้จ่ายการเดินทาง ระบบยังรองรับการคำนวณค่าอินเทอร์เน็ตในต่างประเทศหรือโรมมิ่ง Concur ระบุว่าในหนึ่งบริษัท ใช้จ่ายค่าโรมมิ่งแพงกว่าที่คำนวณไว้ 40 ดอลลาร์/เดือน คูณมือถือ 3,500 เครื่อง คิดเป็นเงิน 1.4 แสนดอลลาร์/เดือน ที่เสียไปกับค่าโรมมิ่ง ผู้ใช้สามารถจัดการดาต้าโรมมิ่งผ่านระบบได้ตั้งแต่ก่อนออกเดินทาง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ไม่เกินมาตรฐานที่ตั้งไว้
SAP Ariba เป็นแพลตฟอร์มรวบรวมข้อมูลบริษัท supplier เชื่อมข้อมูลจากทั้งภายในบริษัทเองและเครือข่ายของ Ariba นอกจากนี้ยังมีฐานข้อมูลจากภายนอกเช่น ข่าวสาร ข้อมูลจากรัฐบาลรวมแล้ว 5 แสนราย
ด้วยการเชื่อมข้อมูลมหาศาลทำให้ SAP Ariba สามารถประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ มีการติดตามความเสี่ยงจากการจัดซื้อประมาณ 130 รายการ และระบบได้แจ้งเตือนไปยังบริษัทที่จัดซื้อได้แบบเรียลไทม์ บริษัทสามารถประเมินความคุ้มค่าของการจัดซื้อผ่าน supplier แต่ละราย แก้ปัญหาและลดชั้นตอนการจัดื้อที่มักมีความซับซ้อนและใช้เวลามาก และช่วยสร้างความโปร่งใสในการจัดซื้อด้วย
นอกจากโซลูชั่นซอฟต์แวร์แล้ว SAP ยังมีผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์อย่าง Digital Boardroom ที่เป็นจอมอนิเตอร์ใหญ่ แสดงแดชบอร์ดการประมวลผลข้อมูลทำงานเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลบนคลาวด์ (SAP BusinessObjects Cloud) และดาต้าเบสแพลตฟอร์มอื่นๆ ของ SAP (เช่น SAP S/4HANA, SAP HANA, และ SAP BusinessWarehouse หรือ เชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลอื่นผ่าน Smart Data Integration หรือ HANA Cloud Integration) โดยมี Machine Learning ทำงานเบื้องหลัง
SAP ยังมีโซลูชั่นอีกมาก สำหรับคนที่สนใจอยากรู้ว่าแต่ละโซลูชั่นทำงานอย่างไรอย่างละเอียดSAP มีเว็บไซต์คอร์สออนไลน์ ลงทะเบียนเข้าใช้ฟรีได้ที่ open.sap.com สำหรับผู้ที่สนใจเพิ่มเติมสามารถติดต่อทาง SAP ประเทศไทยได้ทางอีเมล info.thailand@sap.com