ช่วงหลายปีให้หลัง Firefox มีความนิยมลดลงมาก ดังจะเห็นได้จากส่วนแบ่งตลาดที่เหลือเพียงหลัก 10% ในขณะที่ Chrome โตวันโตคืน
แต่ล่าสุด Mozilla ประกาศว่าจะกลับมาทวงบัลลังก์อีกครั้ง ด้วย Firefox ที่ยกเครื่องใหม่ทั้งเอนจินและหน้าตา โดยจะเริ่มมีผลใน Firefox 57 ที่จะออกในเดือนพฤศจิกายนนี้
ผู้บริหารของ Mozilla ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ CNET โดยซีอีโอคนปัจจุบัน Chris Beard ยอมรับความผิดพลาดในอดีตที่แล้วๆ มา เขาบอกว่า Firefox ไม่ยอมปรับตัวตามความต้องการของตลาด ไม่สนใจความต้องการของผู้ใช้ อดีตแฟนๆ ที่เหนียวแน่นของ Firefox ปัจจุบันกลายเป็นผู้ใช้ Chrome แทน ซึ่งเขาจะกลับมาสานสัมพันธ์กับผู้ใช้ Firefox ใหม่อีกครั้ง
ด้าน Mark Mayo รองประธานอาวุโส ให้ความเห็นว่าที่ผ่านมา Mozilla ไปโฟกัสที่ฟีเจอร์สำหรับนักพัฒนาเว็บมากเกินไป จนไม่สนใจผู้ใช้งานทั่วๆ ไป
นอกจากนี้ ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา Mozilla ยังไปทุ่มกับโครงการ Firefox OS ที่สุดท้ายแล้วเข็นไม่ขึ้น ต้องยุบโครงการและปลดพนักงานในทีมนี้ออกไป 50 คน
แผนการกลับมาของ Firefox จะเริ่มขึ้นใน Firefox 57 อันเป็นผลจากโครงการ Quantum ที่เป็นการยกเครื่องเอนจินครั้งใหญ่ ที่เพิ่มประสิทธิภาพแบบก้าวกระโดด จากการทดสอบของ Mozilla ด้วยเบนช์มาร์ค Speedometer ได้ประสิทธิภาพดีขึ้น 36-45% เมื่อเทียบกับ Firefox รุ่นที่ออกในปี 2016
นอกจากนี้ยังมีโครงการ Photon ปรับ UI ใหม่ของ Firefox อีกครั้ง การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือเปลี่ยนมาใช้แท็บแบบขอบตรง (เหมือน Edge), มีช่อง URL เพียงช่องเดียวไม่แยก search, พื้นหลังที่ไม่ใช่แท็บกลายเป็นสีเข้ม, เน้นแอนิเมชันของปุ่มให้มากขึ้น
ใน URL bar ยังมีปุ่ม ... ที่รวมการควบคุมเว็บเพจ (เรียกว่า page action เช่น bookmark/Pocket) และเราสามารถลากปุ่มที่ใช้บ่อยๆ มาวางไว้ใน URL bar ได้
ตัวอย่างแอนิเมชันของ Photon
อย่างไรก็ตาม Firefox 57 จะไม่สามารถใช้ส่วนขยายแบบเดิมๆ ของ Firefox ได้ หลังจากที่ Firefox ประกาศใช้ส่วนเสริม Web Extensions แบบเดียวกับ Chrome มาก่อนหน้านี้แล้ว
Firefox 57 มีกำหนดออกตัวจริงในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2017 สำหรับผู้ที่สนใจ ตอนนี้สามารถดาวน์โหลด Firefox 57 แบบ Nightly มาทดสอบก่อนได้
นอกจากตัว Firefox แล้ว ผู้บริหารของ Mozilla ยังเผยแผนการระยะยาว ว่าจะผลักดัน Pocket ที่ซื้อมาตอนต้นปี 2017 ในฐานะตัวช่วยให้คนเข้าถึงเนื้อหาเว็บแบบใหม่ๆ แทนการพึ่งพา Google Search หรือ Facebook
แผนการที่น่าสนใจอีกอย่างคือ Mozilla เตรียมจะมีบริการสมาชิกแบบเสียเงิน (ตัว Firefox ปกติจะยังฟรีเหมือนเดิม) โดยแลกกับบริการแบบพรีเมียมต่างๆ (ที่ยังไม่เปิดเผยในตอนนี้) และการให้ Mozilla เป็นตัวแทนผลักดันนโยบายสำคัญๆ เพื่อชาวเน็ต เช่น net neutrality หรือปัญหาความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์
ที่มา - CNET