เปิดตัว iPhone X (ไอโฟนเท็น) หน้าจอ OLED ไร้ขอบ ไร้ปุ่มโฮม ราคาเริ่มต้น 999 ดอลลาร์

by mk
12 September 2017 - 18:40

นอกจาก iPhone 8 และ 8 Plus แอปเปิลยังเปิดตัว iPhone X (อ่านว่า ไอโฟนเท็น) ตามความคาดหมาย

iPhone X ใช้ดีไซน์ตรงกับข่าวหลุดที่ออกมาก่อนหน้านี้ หน้าจอ OLED เกือบไร้ขอบ มีแหว่งด้านบน ตัดปุ่มโฮมออก เปลี่ยนมาใช้กล้องหน้า True-Depth สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคแทน โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 999 ดอลลาร์

iPhone X ใช้ดีไซน์กระจกทั้งด้านหน้าและด้านหลังแบบเดียวกับ iPhone 8 แต่เน้นความโค้งมนมากกว่า ตัวกระจกจะเรียบเนียนต่อไปกับขอบด้านข้าง

เนื่องจากใช้ดีไซน์ขอบบาง ตัวเครื่อง iPhone X มีขนาดเล็กกว่า iPhone 8 Plus ที่มีหน้าจอขนาดเล็กกว่า (5.5") และมีขนาดใหญ่กว่า iPhone 8 (4.7") เล็กน้อย

หน้าจอ OLED ไร้ขอบ ไร้ปุ่มโฮม

ของใหม่ที่สำคัญของ iPhone X คือจอภาพ Super Retina Display ขนาด 5.8" 2436x1125 (458 ppi มากที่สุดในประวัติศาสตร์ iPhone) ใช้ดีไซน์แบบไร้ขอบ ตัวจอภาพเป็น OLED ที่มีอัตราคอนทราสต์สูง และแก้จุดอ่อนของ OLED เรื่องความสว่างและความแม่นยำของสีไปแล้ว

ตัวจอรองรับการแสดงผล HDR ทั้งมาตรฐาน Dolby Vision และ HDR10, รองรับการสัมผัสแบบ 3D Touch ในตัว

iPhone X ยังตัดปุ่มโฮมออก ใช้วิธีแตะจอเพื่อปลุกแทน และใช้ gesture ต่างๆ สั่งงาน เช่น ปัดขึ้นเพื่อปิดหรือสลับแอพ

สแกนใบหน้า Face ID มาแทน Touch ID

ส่วนฟีเจอร์สแกนลายนิ้วมือ Touch ID ถูกตัดออกไป เปลี่ยนมาใช้การปลดล็อคด้วยการสแกนใบหน้า Face ID แทน โดยใช้ระบบกล้องและเซ็นเซอร์ด้านหน้าหลายตัว ทำงานร่วมกันร่วมกับเทคนิค machine learning สร้างโมเดลใบหน้าที่แม่นยำ

สำหรับคนที่กังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว ข้อมูลใบหน้าจะถูกประมวลผลภายในเครื่องเท่านั้น และเก็บไว้ในชิปพิเศษของแอปเปิลแบบเดียวกับข้อมูลลายนิ้วมือ Touch ID

Face ID ยังสามารถใช้แทน Touch ID ในการจ่ายเงิน Apple Pay รวมถึงใช้ล็อกอินกับแอพตัวอื่นๆ ได้ด้วย

Animoji อีโมจิที่ขยับตามใบหน้าของเรา

ระบบกล้องหน้าของ iPhone X นอกจากใช้สแกนใบหน้าเพื่อล็อกอินแล้ว ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ Animoji ที่ขยับใบหน้าของ Emoji ตามใบหน้าของเราได้ด้วย

นอกจากนี้ยังมีเอฟเฟคต์สติ๊กเกอร์ที่ขยับตามใบหน้า (แบบเดียวกับ Note 8) ด้วยเช่นกัน

กล้องคู่ด้านหลัง กล้องหน้า True-Depth

iPhone X ใช้กล้องคู่ 12MP ตัวเดียวกับ iPhone 8 Plus (f/1.8 และ f/2.4) แต่วางเรียงในแนวตั้ง กล้องทั้งสองตัวมาพร้อมกับ OIS และมีแฟลช LED True Tone 4 ตัว

กล้องมาพร้อมกับฟีเจอร์ Portrait Mode และ Portrait Lighting แบบเดียวกับ iPhone 8

ส่วนกล้องหน้าใช้ประโยชน์จากกล้อง True-Depth เพิ่มโหมด Selfie ที่สมจริง มีฟีเจอร์ Portrait แบบเดียวกับกล้องหลัง

ฮาร์ดแวร์เดียวกับ iPhone 8

ใช้สเปกเดียวกับ iPhone 8 โดยเป็นชิป A11 Bionic และจีพียู, หน่วยประมวลผลภาพ (ISP) ที่แอปเปิลออกแบบเอง

แบตเตอรี่อยู่ได้นานกว่า iPhone 7 อีก 2 ชั่วโมง และรองรับระบบชาร์จไร้สาย Qi เหมือนกับ iPhone 8

ราคาเริ่มต้น 999 ดอลลาร์ แพงสุด 1,149 ดอลลาร์

iPhone X มีให้เลือกสองสีคือ Space Grey และ Silver มีความจุให้เลือก 2 แบบคือ 64GB ราคา 999 ดอลลาร์ (ประมาณ 33,000 บาท) และ 256GB ราคา 1,149 ดอลลาร์ (ประมาณ 38,000 บาท) ส่วนราคาไทยก็ต้องรอติดตามกันต่อไป

iPhone X เปิดพรีออเดอร์ 27 ตุลาคม วางขายจริง 3 พฤศจิกายน

การเปิดตัว iPhone X ทำให้ปีนี้แอปเปิลมี iPhone วางขายทั้งหมด 5 รุ่น เริ่มตั้งแต่ iPhone SE (ที่ยังขายอยู่!) ราคา 349 ดอลลาร์ ไล่มายัง iPhone 6s, 7, 8 และ X ที่ระดับสูงสุด

วิดีโอแนะนำตัว iPhone X

Blognone Jobs Premium